เพราะพฤติกรรม หรือความเคยชิน เป็นตัวการใหญ่ที่ทำให้คนเมืองกลายเป็นคนอมสารพัดโรค แถมต้องเสียเวลา สูญเงินเก็บกับการรักษาที่แพงแสนแพง ถ้าไม่อยากแพ้น็อกให้โรคร้าย นี่คือ 10 พฤติกรรมไม่เอาไหน ที่โภชนากรซูซาน โบเวอร์แมน ที่ปรึกษาของเฮอร์บาไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ดแนะให้คุณเปลี่ยน
1.เมินอาหารทุกเช้า
ทั้งที่ทราบกันดีว่า “อาหารเช้า” คือ ขุมพลังสำหรับการเริ่มต้นวันใหม่ แต่คนเมืองส่วนใหญ่ก็หันหลังให้อาหารเช้าอยู่ดี นี่คือประโยชน์จากอาหารเช้าที่เราอยากให้คุณเห็น และให้ความสำคัญ เพราะการรับประทานอาหารเช้าเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ช่วยทำให้สมองแจ่มใสและมีสมาธิในการทำงาน ทั้งนี้เพราะสมองต้องการพลังงานในตอนเช้า หลังจากที่ไม่ได้รับอาหารมาตลอดคืน
นอกจากการออกกำลังกายอย่างเป็นประจำแล้ว “การกระตุ้นให้ร่างกายเคลื่อนไหวอยู่เสมอ” เช่น การเดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ การเดินหรือปั่นจักรยานแทนการนั่งรถ รวมถึงการเดินไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานแทนการคุยกันในLineหรือโทรศัพท์ภายใน จะทำให้เกิดการใช้พลังงานเพิ่มเติมด้วย
ช่วงเวลา “เพลิน - เพลิน” คือ ช่วงเวลาที่เราได้พักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการดูรายการโทรทัศน์เรื่องโปรด ดูภาพยนตร์เรื่องดัง หรือแม้กระทั่งดูรายการต่างๆ ผ่านโลกออนไลน์ ซึ่งแน่นอนว่ามักจะเกิดการกินในช่วง “เพลิน - เพลิน” ซึ่งนอกจากจะทำให้เราไม่ใส่ใจกับการรับประทานอาหารแล้ว ยังก่อให้เกิดการรับประทานอาหารมากเกินไป จนทำให้เกิด ‘โรคอ้วน’ ตามมา
4.เดินกิน
รู้หรือไม่ว่าการรับประทานอาหาร ที่ช่วยให้ระบบเผาผลาญและการย่อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คือ “การนั่งรับประทานอาหารอย่างถูกต้องและเหมาะสม” ซึ่งการรับประทานอาหารระหว่างเดินทาง หรือแม้กระทั่งการรับประทานอาหารในขณะที่นั่งรถ หรือแม้กระทั่งระหว่างการแต่งตัวในตอนเช้า นอกจากจะไม่สร้างความสุขในการรับประทานแล้ว ยังยากต่อการประเมินปริมาณและคุณค่าอาหารที่รับประทานในช่วงนั้นๆ ด้วย
น้อยคนนักจะรู้ว่า “เครื่องดื่ม” จะทำให้เราได้รับแคลอรี่ที่ไม่ต้องการได้ การป้องกันง่ายๆ คือ เลือกดื่มเครื่องดื่มที่ปลอดแคลอรี่ และควรได้รับแคลอรี่จากการรับประทานอาหารเท่านั้น
6.ทำตัวเป็นอูฐ
กลไกในร่างกายส่วนใหญ่ต้องการน้ำเป็นตัวขับเคลื่อน แต่จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม คนส่วนใหญ่มักดื่มน้ำในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างน้อยควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว หากกลัวว่าจะลืมลองวางแก้วน้ำไว้ใกล้ตัวซิ ช่วยได้
7.ไม่ง้อน้อง “โปรตีน”
ในการรับประทานอาหารทุกมื้อเราควรให้ความสำคัญกับ “โปรตีน”
เป็นสารอาหารหลัก เนื่องจากโปรตีนช่วยดับความหิวได้ดีกว่าไขมัน
หรือคาร์โบไฮเดรต และควรเลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น โยเกิร์ต ถั่ว ธัญพืชที่มีโปรตีนสูง โปรตีนเชค เนยแข็งและทูน่า เป็นส่วนประกอบสำหรับอาหารว่าง
ผลไม้และผักจะให้สารอาหารที่มีประโยชน์มากมายแต่ให้แคลอรี่ต่ำที่สุด
อีกทั้งยังอุดมด้วยน้ำและไฟเบอร์ ทำให้เรารู้สึกอิ่มท้องได้โดยไม่มีไขมันส่วนเกิน
9.“อดมื้อ - กินมื้อ”
รู้หรือไม่ว่า“การอดมื้อ - กินมื้อ” จะทำให้เรารับประทานอาหารเพิ่มขึ้น
ในมื้อถัดไปแบบไม่รู้ตัว เพราะร่างกายต้องการสารอาหารเพื่อมาชดเชย
จากการที่เรางดอาหารในมื้อที่ผ่านมา ดังนั้น “การอดมื้อ - กินมื้อ”
จึงไม่ใช่วิธีการควบคุมแคลอรี่ที่ได้ผล ทางที่ดีเราควรบริโภคอาหารหรือของว่างในปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้งจะดีกว่า
“การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ” จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าปกติ
ซึ่ง “การออกกำลังกาย” จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อเหล่านั้น (Strength training) นอกจากนี้ การออกกำลังกายจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง และเสริมสร้างอัตราเผาผลาญในร่างกายระหว่างการพักผ่อน (Resting metabolic rate) มากขึ้น
ทราบแล้ว...เปลี่ยนซะ!!!
...............................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น