วันนี้ (7 สิงหาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและที่ปรึกษาสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้กระแสของวัยรุ่นทั้งชายและหญิงในปัจจุบันใช้ชีวิตอย่างน่าเป็นห่วง จากการรับประทานอาหารเสริมวิตามินต่าง ๆ แทนข้าวจะมีอันตราย เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงเป็นโรคขาดสารอาหารหรือได้สารเคมีเกิน ส่งผลให้ตับไตพัง ไอคิวต่ำลง สมองไม่แล่น ป่วยง่าย
นายสง่า ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการฯ ระบุว่า วัยรุ่นที่อยากสวย มีหุ่นผอมเพรียว ผิวพรรณดี ตาหวาน โดยใช้วิธีกินอาหารเสริมต่าง ๆ ทั้งชนิดเม็ด แคปซูล หรือชงดื่ม เช่น ผงบุก วิตามินต่าง ๆ ซึ่งมีราคาถูก หาซื้อได้ง่ายทางอินเทอร์เน็ต และตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่นิยมกินแทนอาหารหลัก เพราะอาหารประเภทนี้กินแล้วจะทำให้อิ่ม ไม่หิวง่าย ทำให้น้ำหนักลด บางรายการอาจมีการโฆษณาว่ามีสารอาหารอื่น ๆ เสริมเข้าไปด้วย ทำให้เข้าใจผิดหลงเชื่อว่ามีสารอาหารครบถ้วน และยังมีสรรพคุณป้องกันโรคมะเร็งหรือสร้างภูมิต้านทานโรคด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้
ทั้งนี้ นายสง่า กล่าวแนะนำต่อไปว่า วัยรุ่นวัยเรียนเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต จำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพียงพอ การหันไปกินอาหารเสริมต่าง ๆ เพื่อให้อิ่มจะได้ไม่ต้องกินอาหารหลัก เพื่อหวังลดน้ำหนัก ให้รูปร่างผอมเพรียวนั้น เสี่ยงต่อการเป็นโรคขาดสารอาหาร ซึ่งโรคนี้เคยเป็นปัญหาในกลุ่มเด็กเล็กในอดีตและพบได้น้อยลงแล้วในปัจจุบัน แต่โรคอาจหวนกลับมาเป็นปัญหาใหม่ของกลุ่มวัยรุ่นไทยก็ได้ นอกจากนี้ยังส่งผลให้มีร่างกายอ่อนแอ ป่วยง่าย เพราะมีภูมิต้านทานโรคต่ำ มีอาการเซื่องซึม ไม่กระตือรือร้น เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง
นอกจากนี้ ยังมีผลต่อการเจริญเติบโตของเซลล์สมอง ส่งผลให้การเรียนรู้และสติปัญญาด้อยกว่าที่ควรจะเป็น ไอคิวต่ำลง มีผลต่อการเรียนหนังสือและความจำด้วย การกินอาหารเสริมไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ไม่สามารถช่วยได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีอาหารเสริมชนิดใดที่กินแล้วร่างกายจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ เพราะการกินอาหารเสริมไม่สามารถไปทดแทนอาหารหลัก เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว ได้
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหารเสริมที่ทำมาจากสารเคมีหรือสังเคราะห์จากสารเคมียิ่งมีอันตราย หากกินเป็นจำนวนมากและติดต่อกันเป็นเวลานาน จะมีโอกาสเสี่ยงที่ร่างกายจะได้รับสารเคมีเกิน ส่งผลให้ตับและไตทำงานหนัก และเกิดตับวายและไตวายได้ในที่สุด เช่น สารแอลคาร์นิทีน (L-carnitine) ในยาลดน้ำหนัก โดยปกติสารอาหารชนิดนี้ มีอยู่ในอาหารตามธรรมชาติ เช่น สัตว์เนื้อแดงชนิดต่าง ๆ ปลา หรือผักผลไม้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งจากอาหารเสริมซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่มีราคาแพงและเปล่าประโยชน์
นายสง่า กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ตนขอฝากเตือนวัยรุ่นที่นิยมกินอาหารเสริม เพราะความหลงเชื่อโฆษณา ก็ควรลดและเลิกกินอย่างเด็ดขาด ขอให้หันมากินอาหารหลักให้ครบทั้ง 5 หมู่ และเพิ่มการออกกำลังกาย กินผักผลไม้สดให้ได้วันละครึ่งกิโลกรัม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ความต้องการที่จะมีหุ่นสวย ตาใส ร่างกายแข็งแรง สมส่วน มีสมองที่ปราดเปรียว พร้อมในการเรียนหนังสือและยังไม่เสี่ยงเป็นโรคขาดสารอาหารอีกด้วย
Thank : นสพ.ฐานเศรษฐกิจ
.........................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น