โดย อาหารเจ กับ มังสวิรัติ นี้เป็นทางหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ ซึ่งก็แล้วแต่วัฒธรรมหรือท้องถิ่นนั้นๆ ก็จะมีหลายกลุ่มที่แตกต่างกันออกไป ตามแบบการเลือกทาน ทั้งทานอาหารแบบมังสิรัติ หรือจะทานแบบ อาหารเจโดยแบ่งออกมาได้ใหญ่ๆ ประมาณนี้
1. มังสวิรัติ (Vegetarian) เป็นกลุ่มที่จะไม่ทานเนื้อสัตว์ ,สัตว์ปีก และอาหารทะเล แต่จะไม่เคร่งเท่ากับกลุ่มที่ทาน อาหารเจ
2. กึ่งมังสวิรัติ (Semi-Vegetarian) คือกลุ่มที่ทานเนื้อสัตว์เป็นบางครั้ง หรือไม่ก็เป็นผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ทั่วไป แต่ยังคงทานสัตว์ปีกและพวกเนื้อปลา
3. มังสวิรัตินม (Lacto-Vegetarian) โดยบางครั้งอาจจะเรียกว่า Lactarian จะทานอาหารมังสวิรัติรวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากนม แต่จะไม่กินเนยแข็ง เพราะในเนยแข็งมีส่วนผสมเจลาติน เป็นสารที่มาจากเยื่อบุผิวของกระเพาะสัตว์
4. มังสวิรัติไข่ (Ovo – Lacto Vegetarian) เป็นกลุ่มที่ทานมังสวิรัติ ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด แต่ทานนมและไข่ หรือผลิตภัณฑ์จากไข่
5. เจ (Vegan) เป็นกลุ่มที่ทาน แต่ อาหารเจ จริงๆ ที่ทำมากจากผัก(ที่ไม่มีกลิ่นฉุน) ผลไม้ ธัญพืช โดยจะไม่ทานเนื้อสัตว์ ไข่ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไข่ หรือสัตว์เลยแม้แต่อย่างเดียวเลย
มังสวิรัติ หรือVeganism เป็นปรัชญาและวิถีชีวิต ยกเว้นการใช้สัตว์มาเป็นอาหาร เสื้อผ้า หรือวัตถุประค์อื่น ผู้ที่ทาน เจ หรือ อาหารเจ จะพยายามที่จะไม่ใช้หรือทานผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์ทุกชนิด โดยทั่วไปในการเป็นมังสวิรัติแบบเจนี้ ก็คือต้องการมีสุขภาพแข็งแรง มีความมุ่งมั่นในคุณธรรมจริยธรรม หรือการตระหนักเกี่ยวกับสิทธิของสัตว์ สิ่งแวดล้อม จิตและวิญญาณ หรือเป็นผู้ปฎิบัติในศาสนา
เทศกาลกินเจ แบบนี้ถ้าเราทาน อาหารเจ ที่ถูกต้องอย่างเหมาะสม และทานครบทั้ง 5 หมู่ ก็จะทำให้มีสุขภาพดีได้เช่นกัน อีกทั้งยังป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็งและโรคอื่นๆ อีกหลายโรคได้เช่นกัน เพียงเท่านั้นคงเข้าใจใน อาหารเจ กันมากขึ้น และทำให้การ กินเจ 2555 นี้ เป็นไปตามหลักการ กินเจ
ที่มา: mthai.com
....................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น