tororichclub

tororichclub

วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

คำ "ขอโทษ" ที่มาจากใจ เอาชนะได้ทุกความโกรธ...


          ถ้าจะให้นับจำนวนครั้งว่าในชีวิตที่ผ่านมาเคยโกรธใครบ้าง ฉันคงจำไม่ได้ หรือถ้าจะถามกลับว่า ตอนที่เป็นฝ่ายถูกโกรธล่ะ โกรธกันนานที่สุดกี่วัน ฉันก็คงจำไม่ได้อีกนั่นแหละ รู้แต่ว่าฉันเกลียดช่วงเวลาเหล่านั้นที่สุด 

          มันคือช่วงเวลาที่ "ความโกรธ" กำลังจะเอาชนะ "ความรัก" ที่คนสองคนมีให้กัน ไม่ใช่แค่ฟังดูน่ากลัว แต่เป็นเรื่องที่ควรกลัวเลยล่ะ เพราะถ้าเมื่อใดที่เผลอหลุดเข้าไปอยู่ในโลก ของความขัดแย้งแล้ว การจะก้าวข้ามออกมาจากตรงนั้น มันทำได้ลำบาก ลองความคิดได้สวนทางกันเสียแล้ว หัวใจก็พร้อมจะเดินสวนทาง ตามอย่างไม่ทันคิดว่าถูกหรือผิด

          ตอนเด็ก ๆ เคยเรียนวิชาพุทธศาสนาวันอาทิตย์ คนที่มาสอนเป็นพระที่บวชในวัดแห่งนั้นแหละ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พระสอนเรื่องความโกรธ ยังจำคำสอนนั้นได้แม่นจนถึงทุกวันนี้ เหตุเพราะต้องนั่งท่องคำเขียนบนกระดานดำอยู่เป็นชั่วโมง จำได้ว่าอารมณ์เสียเพราะอยากกลับบ้านไปดูการ์ตูนตอน 4 โมงเย็น แต่พระท่านยังให้ท่องคำเขียน ไม่ยอมปล่อยสักที 

          มาวันนี้...ได้ใช้ประโยชน์แล้ว อย่างน้อย ๆ ก็เป็นการบอกต่อที่น่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการที่พึ่งทางใจ เวลาจะนึกโกรธใคร ถ้าลองได้ท่องคำสอนนี้แล้ว อาจจะยับยั้งชั่งใจตัวเองได้อยู่บ้าง "โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ไม่โกรธดีกว่า จะได้ไม่บ้า ไม่โง่" เออหนอ...พอมาทบทวนคำสอนผนวกเข้าสถานการณ์จริง มันถูกทุกอย่างเลย นึกภาพเวลาเราโกรธใครสักคนสิ หน้าตาดี ๆ ก็ทำให้มันบูดเบี้ยวได้ เคยเป็นคนร่าเริงหัวเราะอารมณ์ดีก็มีท่าทางปั้นปึง ไม่ต่างจากรูปปั้นน่ากลัว ถ้าลองมองคนที่อยู่ในอารมณ์โกรธ ก็ทำให้นึกสงสัยได้เสมอว่า ทำไมถึงปล่อยให้อารมณ์แปลงโฉมคนดี ๆ ให้กลายเป็นเหมือนคนบ้าได้นะ?

          ขอโทษกันสิ...ทางออกมันง่ายนิดเดียว สำหรับบางคนอาจไม่ชอบพูดคำนี้ เพราะตั้งกฎกับตัวเอง (เอาเอง) ว่าถ้าพูดคำขอโทษแล้วไม่รู้สึกว่าตัวเอง "เหนือกว่า" ไม่ต้องไปฟอร์มมากหรอกน่า ถ้าจะรักกันก็ควรจะดำเนินทั้งชีวิต และวิธีคิดให้ใกล้เคียงกัน คนเราไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกันไปทุกอย่าง แต่ความแตกต่างที่มันมากเกินก็ไม่ได้เป็นผลดีเสมอไป อีกอย่างฉันก็ไม่เคยเห็นใครโกรธกันแล้ว มีความสุขสักคน อาการกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เฝ้ามองโทรศัพท์รอว่าเขาจะโทรมาง้อหรือเปล่า? กับความคิดที่เข้าข้างตัวเองว่า "ฉันเป็นฝ่ายถูก" เหมือนอาวุธร้ายทางความคิดที่เราจินตนาการขึ้นมา ทำร้ายหัวใจเราเองทั้งนั้น ถ้าเขาคิดเหมือนกันว่า "เขาก็ถูก" ล่ะ ไม่ต้องรอไปจนตายเหรอกว่าจะได้คืนดีกัน 

          เชื่ออยู่อย่างว่าถ้าเราจะทำอะไรสักอย่าง แล้วให้ทำออกมาจากหัวใจจริง ๆ ไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะมีใครเห็นไหม ไม่ต้องกังวลหรอกว่าเขาจะเข้าใจหรือเปล่า? เพราะถ้าเราพยายามจริง ๆ เขาย่อมรู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราแสดงออกถึงความพยายามนั้นแล้วล่ะ 

          ทะเลาะกัน...เขาไม่ปล่อยให้ข้ามคืน คนที่อยากคืนดีกันก็ไม่ควรหันหลังให้กันเช่นกัน เอ่ยคำว่า "ขอโทษ" ที่มาจากใจจริง ๆ ออกมาเถอะ ถ้าคนที่เรากำลังจะขอโทษจะดู "เหนือกว่า" สักครั้งจะเป็นไรไป ในเมื่อเขาคนนั้นเป็นคนที่เรารักไม่ใช่หรือ มีแต่ความรู้สึกที่หวังดีต่อกันอย่างแท้จริง และถ้าวันหนึ่งจะต้องเป็นฝ่ายยอม ก็ต้องยอมเป็น ถ้าถึงเวลาต้องขอโทษ...ก็ต้องพูดคำขอโทษเป็น เพราะคงมีแต่คนบ้าเท่านั้นที่โกรธกันแล้วปล่อยปละละเลย กระทั่งไม่เหลือด้านงดงามให้กับความรัก และที่โง่กว่านั้น คือ การเลือกที่จะ "เหนือกว่า" แล้วรับความทุกข์เข้ามาเพื่อทำร้ายตัวเอง

เรื่องโดย : ออนอุมาร์
......................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น