นโยบายใหม่ของเฟซบุ๊ก ซึ่งเริ่มต้นใช้ในสหรัฐฯเป็นประเทศแรก คือ การเก็บค่าส่งข้อความแบบเหมาจ่ายเป็นเงิน 1 ดอลลาร์ หรือประมาณ 30 บาทต่อหนึ่งเมล์บ็อกซ์ปลายทาง เพื่อยืนยันว่า ข้อความที่ส่งไปจากผู้เสียค่าบริการจะไปถึงผู้รับที่เป็นเป้าหมาย และไม่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของ "สแปม" หรือข้อมูลขยะในแอคเคาต์ของผู้รับอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กให้เหตุผลว่า นโยบายใหม่ที่ว่านี้เป็นความพยายามเพื่อลดปริมาณการส่งข้อความที่ไม่พึงประสงค์ไปยัง"อินบ็อกซ์"ในแอคเคาต์ของผู้รับ ขณะเดียวกันก็เป็นการรับประกันว่า ข้อความสำคัญที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กต้องการส่งถึงผู้รับ ซึ่งไม่มีรายชื่ออยู่ในกลุ่ม"เพื่อน"ของตน จะไปถึงจุดหมายปลายทางตามความต้องการ โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับการส่งข้อความทางเฟซบุ๊ก และเป็นการทดสอบแผนการหารายได้แนวใหม่ให้กับบริษัท ซึ่งมีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเฟซบุ๊ก ตัดสินใจยุติการลงโฆษณาในแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊กสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่ ส่งผลให้หลายฝ่ายตั้งคำถามเกี่ยวกับทิศทางการทำกำไรของเฟซบุ๊ก จากจำนวนผู้ใช้แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นยังมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจาก"อินสตาแกรม" แอพพลิเคชั่นแชร์รูปภาพออนไลน์ ซึ่งเป็นกิจการในเครือของเฟซบุ๊ก ยอมล้มเลิกแผนเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การใช้ใหม่ หลังจากเกิดกระแสต่อต้านอย่างหนักจากผู้ใช้ ซึ่งเชื่อว่า อินสตาแกรมกำลังมีแผนนำรูปภาพของพวกเขาไปขายทำกำไร โดยไม่จ่ายเงินส่วนแบ่ง และไม่แจ้งให้เจ้าของภาพทราบล่วงหน้า
Thank : http://news.voicetv.co.th/global/58922
.................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น