tororichclub

tororichclub

วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โรคบนเตียง

ดร.แพง ชินพงศ์
         เวลานอนคือเวลาแห่งการพักผ่อนหลังจากที่ร่างกายของเราได้ใช้งานมาตลอดทั้งวัน และการนอนหลับนอกจากจะทำให้ร่างกายได้หยุดพักแล้ว ยังเป็นเวลาที่ร่างกายจะได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่าง ๆ ทั้งยังช่วยสร้างพลังงานขึ้นใหม่ โดยสังเกตได้จากเวลาเราตื่นนอนหลังจากที่ได้นอนอย่างเต็มที่แล้ว เราจะรู้สึกสดชื่นและมีเรี่ยวแรงมากขึ้น ดังนั้นใครก็ตามที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอน จึงมักจะไม่สดชื่น อารมณ์เสีย หงุดหงิดง่าย ไร้เรี่ยวแรง เจ็บป่วยบ่อยและบางรายอาจเป็นมากถึงขั้นเป็นอันตรายแก่ชีวิตเลยก็มี 

       เมื่อการนอนเป็นสิ่งสำคัญแก่ร่างกาย เราก็ควรต้องให้ความสำคัญกับมันอย่างมากเช่นกัน บางคนให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย เข้าฟิตเนส เข้าโรงยิม เล่นโยคะ ให้ความสำคัญกับการกินดื่ม เลือกกินแต่ของดี ๆ แพง ๆ แต่พอถึงเวลานอนกลับไม่นอน หรือพอมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนก็ไม่ใส่ใจจะรักษา เพราะคิดว่าไม่สำคัญ จึงเกิดเป็นโรคภัยต่าง ๆ ตามมามากมาย ดังนั้น เราจึงควรให้ความสำคัญและควรรู้ว่าโรคที่เกี่ยวข้องกับการนอนหรือโรคที่เกิดได้จากบนเตียงนั้นมีอะไรบ้างและมีผลเสียแก่ร่างกายอย่างไร เพื่อเราจะได้หาทางป้องกันและรักษาต่อไป
       
       โรคบนเตียง มีอะไรบ้าง       
       1. อาการนอนไม่หลับ โดยปกติแล้วคนเราควรต้องนอนวันละ 8 ชั่วโมง แต่สำหรับเด็กทารกอาจต้องนอนมากถึง 16 ชั่วโมง ในขณะที่คนสูงวัยอาจนอนเพียงวันละ 5 ชั่วโมงเท่านั้นก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว การนอนอย่างเพียงพอจะทำให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งในทางตรงกันข้ามหากเรานอนไม่พอแล้วจะทำให้มีปัญหาต่าง ๆ ตามมา ทั้งมีอาการง่วง อิดโรย อ่อนแรง ไม่มีสมาธิ ความจำไม่ดี ปวดศีรษะ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ร่างกายเติบโตช้า แก่ง่าย ตายเร็ว การอดนอนหรือนอนไม่หลับจึงเป็นการทำร้ายตนเองซึ่งมีผลเสียพอ ๆ กับการติดยาเสพ ติดหรือดื่มสุรายาเมาเลยทีเดียว
       
       การนอนไม่หลับเกิดได้หลายสาเหตุ ทั้งความเครียดจากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบพบเจอและความเครียดจากสิ่งแวดล้อม ทั้งเกิดจากความวิตกกังวลต่าง ๆ เกิดจากการอดหลับอดนอนมาหลายวันที่เรียกว่าตาค้าง หรือเกิดจากการมีโรคประจำตัว ซึ่งยาบางชนิดที่รับประทานอาจทำให้ไม่ง่วง เช่น ยารักษาโรคหัวใจ ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง 
       
       การรักษาอาการนอนไม่หลับ โดยหลักควรพยายามรักษาโดยไม่ใช้ยาแต่ให้พยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเราเอง เป็นต้นว่า 
       
       1) นอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกคืน เพื่อร่างกายจะสามารถปรับตัวได้ว่าเมื่อถึงเวลานี้แล้วเราจะต้องนอนพักผ่อน 
       2) ไม่กินอาหารก่อนนอนเพราะจะทำให้ไม่สบายตัวและไม่ดื่มน้ำมากเพราะอาจต้องลุก เข้าห้องน้ำบ่อย งดดื่มกาแฟหรือชา หากอยากกินอะไรสักอย่างก่อนนอนควรเป็นนมอุ่น ๆ สักแก้วก็เพียงพอแล้ว และนมมีแคลเซียมและมีกรดอะมิโนที่ชื่อว่า ทริปโตแฟนช่วยให้นอนหลับสบาย 
       3) ปิดไฟนอน 
       4) หาที่นอนและหมอนที่เหมาะกับสรีระของร่างกายซึ่งไม่ควรแข็งหรืออ่อนเกินไปจะ ทำให้นอนไม่สบายตัวและปวดเมื่อยร่างกาย 
       5) จัดห้องให้สะอาดและโล่ง ไม่ควรมีของมากมายในห้องนอนเพราะจะทำให้อึดอัดและอากาศไม่ถ่ายเท 
       6) ออกกำลังกายอย่างพอดีจะทำให้ร่างกายผ่อนคลายหลับสบายขึ้น 
       
       หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการมากขึ้น เช่น นอนไม่หลับหลายคืนติดต่อกัน ไม่ควรไปซื้อยานอนหลับมาใช้เอง แต่ให้ไปรักษากับแพทย์โดยตรงจะเป็นผลดีและปลอดภัยที่สุด

       2. อาการนอนกรน นอกจากจะเป็นที่สร้างความรำคาญแก่ผู้ร่วมห้องนอนแล้ว สำหรับตัวผู้ป่วยเองก็เดือดร้อนไม่แพ้กันเพราะไม่ต่างอะไรกับการนอนไม่หลับ เนื่องจากร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทั้งยังเสี่ยงที่จะเป็นโรคอื่น ๆ ตามมาอีกหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดในสมอง โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ออกซิเจนในเลือดแดงลดต่ำ และยิ่งใครมีอาการมากอาจถึงขั้นหยุดหายใจชั่วขณะจึง อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
       
       การนอนกรน เกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเพราะ       
       - อายุที่มากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อต่าง ๆ หย่อนยาน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ขยายช่องทางเดินหายใจบริเวณลำคอทำให้ลิ้นไก่ ตกไปบังทางเดินหายใจ

Thank : manager online
...................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น