tororichclub

tororichclub

วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ไข่ลูกเขย...


เครื่องปรุง + ส่วนผสม

ไข่ไก่หรือไข่เป็ด 6 ฟอง (ต้มและแกะเปลือกออก)
น้ำมะขามเปียก 3/4 ถ้วยตวง
น้ำตาล 1/4 ถ้วยตวง
น้ำปลา 1/4 ถ้วยตวง
น้ำมัน 1/4 ถ้วยตวง
หอมแดงซอยบางๆ 10-15 ลูก
ผักชี (สำหรับแต่งหน้าอาหาร)

 วิธีทำ

1. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้้งไฟร้อนปานกลาง นำไข่ต้มลงไปทอดจนผิวเริ่มกรอบและเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วนำไข่ออกมาใส่จานเสริฟ
2. ใช้น้ำมันที่เหลือในกระทะ นำไปตั้งไฟ และใส่หอมแดงลงไปทอดจนเหลืองกรอบ (ระวังไหม้) นำออกมาสะเด็ดน้ำมัน
3. ใช้น้ำมันส่วนที่เหลือจากการทอดไข่และเจียวหอมแดง นำไปตั้งไฟ ใส่น้ำตาล, น้ำมะขามและน้ำปลา ปรุงจนได้รสชาติที่ต้องการ (รสชาติดั้งเดิมจะมีรสหวานและเปรี้ยวพอๆกัน)
4. หั่นไข่ต้ม และจัดเรียงไว้ในจาน ราดด้วยน้ำราดที่่ทำในขั้นตอนที่สาม โรยหน้าด้วยหอมเจียวและผักชี เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ
............................................................................................


สอบถามข้อมูลการลงทุนเพิ่มเติม โทร. 081-575-8928
....................................................................................


วันนี้...วันพระ...



เ รื่ อ ง จ ริ ง ข อ ง ก า ร โ ก ห ก !!!  

เพื่อนๆ ผู้ใฝ่ในธรรม และเป็นนักปฏิบัติธรรมทั้งหลาย
คงตระหนักกันดีนะเจ้าคะว่า....
ศีลข้อ ๔ การห้ามพูดปดเนี่ยะ...!!!
หากปฏิบัติตามแล้วจะเกิดผลดีต่อตนเอง และสังคม อย่างไร
และหากขาดหรือละเลยไม่ปฏิบัติตาม
จะเกิดผลเสียต่อสังคมให้ปั่นป่วนอย่างมากมานักต่อนักแล้ว !!! 
การโกหกจะมีผลอย่างไรกับตัวเรา และคนรอบข้างนะ 
ข้าพเจ้าว่า....เรามารู้จักเรื่องจริงของการโกหกกันสักหน่อยมั้ย!!!

         ๑. คุณรู้มั้ยว่าการโกหก คือเหตุผลอันดับแรก ๆ ที่ทำให้สูญเสียความไว้วางใจ 
         ๒. เหตุผลที่คนส่วนใหญ่มักจะนำมาอ้างกับตัวเอง 
        หรือผู้อื่น คือ "ไม่ต้องการการเผชิญหน้า" 
จริงอยู่ว่าการเผชิญหน้ากับใคร หรือกับปัญหาใด ๆ ย่อมไม่ใช่เรื่องสนุก 
แต่การหลีกเลี่ยงโดยวิธีการโกหกก็ไม่ใช่การแก้ไขปัญหา 
เป็นเพียงแค่การปกปิด และเมื่อความจริงเปิดเผยออกมา 
การโกหกยิ่งเป็นการทำให้ปัญหามากขึ้นไปอีก 
         ๓. เหตุผลอื่นที่คนส่วนใหญ่โกหก คือเพื่อทำให้ตนเองดูดีขึ้น หรือน่าสนใจขึ้น 
        สาเหตุของการโกหก อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า 
คนๆ นั้นมีความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ กำลังมีปัญหาที่บ้าน หรือกำลังมีความซึมเศร้า 
         ๔. การโกหกก็เหมือนกับการเล่นโดมิโน 
        การโกหกเพียง ๑ เรื่อง ก็สามารถที่จะทำลายสัมพันธภาพทั้งมวล 
และทำลายชีวิตทุกด้าน หรือเป็นข้อจำกัดในอนาคตที่คุณไม่สามารถคาดเดาได้ 
         ๕. การโกหกก็เหมือนกับการเล่นพนัน 
         ทุกครั้งที่คนเราโกหก เรากำลังพนันกับการถูกจับโกหก 
         ๖. การโกหกก็เหมือนกับการที่คนเราส่งมันออกไปเพื่อที่จะกลับมาล่าตัวเราเอง 
         ๗. เมื่อคนเราโกหกคนอื่นๆ เหมือนเรากำลังโกหกตัวเองด้วย 
         ๘. การโกหกที่เป็นลักษณะโกหกเรื้อรัง 
        เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคน ๆ นั้นมีปัญหาทางจิตเวช
หรือมีปัญหาในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม 
ถ้าเมื่อใดที่คุณค้นพบตัวเองว่าโกหกโดยไม่มีเหตุผล หรือเพื่อปกปิดพฤติกรรม
คุณควรจะรู้ว่านี่คือสิ่งที่อันตราย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยเหลือ 
        ๙. การโกหกสามารถทำลายภาพลักษณ์ของคนเรา 
        และเป็นสาเหตุของความขัดแย้งภายในตน 

(ที่มา: นันท์นภัส ประสานทอง/กรมสุขภาพจิต)


.................................................................................................

ซึ้ง!! คุณพ่อใส่ "กระโปรงแดง" เป็นเพื่อน "ลูกชาย"...



          ภาพสุดประทับใจ ! คุณพ่อชาวเยอรมันตัดสินใจสวมกระโปรงแดงเป็นเพื่อนลูกชายวัย 5 ขวบบนถนนสายหนึ่งในเยอรมัน สนันสนุนเส้นทางที่ลูกชายตัดสินเลือกเดิน
          กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในหมู่ผู้ปกครองที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่งทางภาคใต้ของเยอรมันนี เมื่อ "นีลส์ พิคเกิร์ท" ได้ตัดสินใจสวมกระโปรงสีแดงเดินเป็นเพื่อนลูกชายวัย 5 ขวบ หลังจากที่เขาสังเกตุเห็นว่าลูกชายของเขามีพฤติกรรมชื่นชอบการใส่กระโปรงจนทำให้เพื่อนๆในโรงเรียนเดียวกันล้อเลียนเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด โดยนีลส์กล่าวว่าการที่เขาลุกขึ้นมาใส่กระโปรงเป็นเพื่อนลูกชายก็เพื่อต้องการจะแสดงให้ลูกชายของเขาได้มีความมั่นใจในเส้นทางที่เลือก
          นีลส์ ยังได้แสดงความเห็นสนับสนุนแนวคิดการใส่กระโปรงของเขาว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องการเปิดใจเพื่อยอมรับ ไม่เกี่ยวกับความฉลาดหรือไร้สาระแต่อย่างใด

แหล่งที่มา Posttoday.com

ซุปเปอร์ผลไม้ที่หมอแนะนำ...



1.ลูกพรุน
เห็นลูกเล็กๆยังงี้แต่ลูกพรุนอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูอิสระมากกว่าบลูเบอรี่ถึง 2 เท่า
        ทั้งๆที่บลูเบอรี่เป็นตัวแม่แห่งสารต้านอนุมูลอิสระอยู่แล้ว ส่วนเรื่องราคาขอบอกว่าลูกพรุนก็มาแบบเจียมเนื้อเจียมตัวราคาก็เลยชิลชิล ถูกกว่าบลูเบอรี่ถึงครึ่งต่อครึ่ง คุณสมบัติแค่นี้พอมั้ยละที่ลูกพรุนจะไปนั่งในใจสาวๆ

2.สับปะรด
คนที่ต้องกินยาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะคงจะขาดสับปะรดไม่ได้ เพราะในผลไม้ชนิดนี้มีสารโบรเมเลียนที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ยาปฏิชีวนะทั้งหลาย กินก่อนอาหารสัก2-3ชิ้น รับรองว่าคุณจะหายจากโรคภัยไข้เจ็บเร็วทันใจจนเข็มขัดสั้นไปตามๆกัน

3.ถั่วแดง
ไม่แน่ใจว่าถั่วแดงจัดเป็นผลไม้หรือเปล่า แต่เรื่องคุณภาพขอบอกว่าคับแก้วจริงๆ
เพราะนอกจากจะมีกากใยสูงที่ดีต่อระบบขับถ่าย ช่วยการทำงานของระบบหัวใจแล้ว 
ยังอุดมไปด้วยโปรตีนที่ช่วยให้อิ่มท้องได้นาน และที่สำคัญหากินง่ายราคาถูก

4.ถั่ววอลนัท
ผลการวิจัยเขาบอกว่า คนที่กินวอลนัทวันละกำมือทุกวัน อายุจะยืนขึ้นอีก 5 ปี แหล่มขนาดนี้เอาไปเลยตำแหน่งซุปเปอร์ผลไม้แห่งปี ยิ่งเจ้าของกระทู้เป็นพวกเสพติดผลวิจัยด้วยแต่ราคาและสถานที่ซื้ออาจจะต้องหากันหน่อย 

5.กีวี
         จะกี่โพลๆ กีวีต้องติดของดีที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะนอกจากมันจะมีเส้นใยอาหารที่ผลไม้ชนิดอื่นไม่กล้าเทียบแล้วนะ กีวียังอุดมไปด้วยวิตามินซีและโปแตสเซียม มีวิตามินซีมากกว่าส้มอีกนะ กินกีวีเข้าไปลูกเดียวได้ประโยชน์เท่ากับกินส้มเข้าไปสองผลกับกล้วยสี่ลูก

........................................................................................

วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หลั่งบ่อย...กันมะเร็ง...18++



        ฮ้า! จริงเหรอ ?” หนุ่มๆ หลายคนร้องไชโย เมื่อรู้ว่ามีผลวิจัยบอกออกมาเลยครับ ว่าถ้ามีเซ็กซ์หรือกระทำอัตตกามกิริยาบ่อยๆ ปรากฏว่าจะช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็งบางประเภทได้
        เรื่องนี้ใหญ่นะครับ เพราะศึกษากันในหนุ่มอเมริกันถึง 30,000 คน นานถึง 8 ปี ผลการวิจัยบอกว่า คนที่ได้หลั่งระบายออกมาบ่อยๆ จะมีโอกาสเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าคนที่อืดๆ อาดๆ รักนวลสงวนตัวไม่ค่อยจะยอมหลั่ง

        ผลการวิจัยนี้ไม่ได้มาเดี่ยวๆ นะครับ แต่ยังออกมาประสานเสียงกับผลวิจัยของออสเตรเลีย แต่อันนั้นวิจัยในกลุ่มที่เล็กกว่า ทว่าก็ให้ข้อสรุปเดียวกัน เขาบอกว่า อย่างหนุ่มๆ อเมริกันในกลุ่มที่ศึกษาน่ะ พบว่าพวกที่โดยเฉลี่ยแล้วหลั่งกันถึง 21 ครั้งต่อเดือน เมื่อเทียบกับกลุ่มที่หลั่งมันแค่เดือนละ 7 ครั้ง จะมีอัตราเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่ำกว่าถึง 1 ใน 3 เชียวครับ

        ในการศึกษานั้น เขาให้หนุ่มๆ ทั้งหลายจดบันทึกการหลั่งของตัวเองเอาไว้อย่างละเอียดยิบ ทั้งแบบมีเซ็กซ์กับแบบทำเอง จนแทบจะเป็นหนังสือโป๊อยู่แล้ว แล้วก็เอามาศึกษาวิจัยกัน และพบว่า ถ้ามีการหลั่งมากขึ้นในแต่ละสัปดาห์ ก็จะลดอัตราเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ถึง 15% แต่ถ้าจะให้ดี ต้องหลั่งกันมากกว่า 12 ครั้งในหนึ่งเดือน พูดง่ายๆ ก็คือ หลั่งมันวันเว้นวันนั่นแหละครับ
        แต่นักวิจัยก็ไม่ได้ทำวิจัยนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นข้ออ้างให้เราหลั่งกันเป็นว่าเล่นนะครับ ดูความพอเหมาะพอสมกับสภาพร่างกาย และความพร้อมของคู่ของเรากันด้วยครับ

เครดิต : GMGroup


.......................................................................................

อาหารเช้าลดน้ำหนัก...



        ใครที่ลดน้ำหนักอยู่ และคิดว่าการงดอาหารเช้าจะช่วยให้ผอมได้ คุณกำลังทำสิ่งที่ตรงกันข้าม การงดอาหารเช้าทำให้ร่างกายลดระบบเผาผลาญลง สมองจะหลั่งสารเคมีที่ชื่อว่า นิวโรเพปไทด์ วาย (neuropeptide Y) ซึ่งจะส่งสัญญาณให้คุณกินโดยไม่รู้ตัว มีภาวะที่เรียกว่า ” อาการกินกลางคืน ” (night eating syndrome) คือเมื่อเริ่มกินมื้อกลางวันแล้ว คุณจะหยุดไม่ได้จนกระทั่งเข้านอน
        คนที่งดอาหารเช้ามักกินจุบจิบและเลือกอาหารที่กินสะดวก ซึ่งอาจมีไขมัน น้ำตาลและแคลอรีสูง นักวิจัยจากโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ดยืนยันว่า ไม่ว่าหญิงหรือชายที่กินอาหารเช้าทุกวันจะอ้วนยากกว่าคนที่งดอาหารเช้า นอกจากนี้ นักวิจัยจากโรงเรียนแพทย์แมทสาชูเสทยังพบว่า คนที่งดอาหารเช้าบ่อยๆ มีแนวโน้มจะอ้วนได้มากกว่าคนที่กินอาหารเช้าเป็นประจำถึง 45%
        ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ กลุ่มผู้หญิงที่กินอาหารเช้าที่มีแคลอรีมากกว่ามื้ออื่นๆ จะลดน้ำหนักลงได้ดีกว่า และ 78% ของคนที่ลดความอ้วนแล้วสามารถประคับประคองน้ำหนักให้คงที่ได้ เป็นพวกที่กินอาหารเช้าทุกวัน ทำไมการกินอาหารเช้าทำให้น้ำหนักลดได้ ยังไม่มีคำตอบชัดเจน รู้แต่เพียงว่า อาหารเช้าช่วยให้หิวน้อยตลอดวัน อย่างไรก็ตามคุณภาพและปริมาณอาหารเช้ามีความสำคัญ ควรจัดให้มีความสมดุลของสารอาหาร และเพื่อลดน้ำหนักจะต้องไม่กินมากเกินไป

 ที่มา : www.healthandcuisine.com

......................................................................................

รักษาสิวง่ายๆ ด้วยว่านหางจระเข้...



เวลาสิวขึ้นก็ว่าเครียดแล้ว แต่เมื่อหายสิวเจ้ากรรมหายก็ดันทิ้งรอยแผลไว้อีก -*- แต่อย่าพึงเครียดไป วันนี้ มีวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้สิวและรอยแผลเป็นจากสิวจางหายไปได้ด้วย ว่านหางจระเข้ ^^

วิธีการ
        1. นำว่านหางจระเข้ไปแช่ในน้ำประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ยางสีเหลืองไหลออกมา
        2. ปอกเปลือกว่านหางจระเข้ออก จนเหลือแต่วุ้นใส นำไปล้างยางออกอีกที แล้วนำวุ้นมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ
        3. นำเนื้อวุ้นมาทาใบหน้า ทาไปเรื่อยๆ จนกว่าเนื้อวุ้นจะไม่มีน้ำ เหลือแต่เส้นใย ก็ให้หยุดทา แล้วรีบล้างออกโดยเร็ว

        สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ให้ทำการทดสอบก่อนว่าใช้โดย ตัดเนื้อวุ้นว่านขนาด 3 ซ.ม. ปิดไว้ตรงแขนด้านใน (หรือทาที่ท้องแขนด้านใน) จากนั้นปิดทับด้วยผ้าก๊อซและกระดาษไข เพื่อให้เนื้อวุ้นติดอยู่ ถ้าไม่มีอาการแดงหรือคันในเช้าวันรุ่งขึ้น แสดงว่าใช้เนื้อวุ้นว่านได้


..................................................................................

ปรากฏการณ์ “บลูมูน” คืน31ส.ค...



        สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติชวนชมปรากฏการณ์  “บลูมูน”  คื น31 ส.ค. เต็มดวง  2 ครั้งในเดือนเดียว พลาดชมรอครั้งหน้า  2 ก.ค. 58 
วันนี้ (30ส.ค.55) ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 สิงหาคม 2555 ที่จะถึงนี้จะเกิดปรากฏการณ์บลูมูล (Blue Moon) หรือ ดวงจันทร์จะเต็มดวงรอบที่สองในเดือนเดียวกัน ทั้งนี้ โดยปกติแล้วปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวง (Full Moon) จะเกิดขึ้นเพียงเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น หากเดือนไหนที่มีดวงจันทร์เต็มดวง 2 ครั้ง จะเรียกดวงจันทร์เต็มดวงในครั้งที่สองว่า "บลูมูน" ในภาษาอังกฤษมีสำนวนว่า "Once in a blue moon" หมายถึงนานๆ จะเห็นสักครั้ง หรือเปรียบได้กับคำว่า "Rarely" ในภาษาอังกฤษ 
        ทั้งนี้ ปรากฏการณ์บลูมูนเกิดขึ้นเนื่องจากใน 1 ปี มี 12 เดือน และบางเดือนมี 30 วัน บางเดือนมี 31 วัน แต่ว่ารอบของดวงจันทร์มีเพียง 29.53059 วันต่อเดือน และใน 1 ศตวรรษ จะมีทั้งหมด 1,200 เดือน โดยจะเกิดดวงจันทร์เต็มดวงได้ถึง 1236.83 ครั้ง แต่จะเป็นบลูมูนแค่ 36.83 ครั้ง เฉลี่ยแล้วประมาณ 2.72 ปีต่อครั้ง หรือประมาณ 3% ของฟูลมูนจะเป็นบลูมูนแต่ที่พิเศษกว่านั้น คือ จะมีการเกิดบลูมูน ปีละ 2 ครั้ง ในทุกๆ 19 ปี ซึ่งปีล่าสุดที่เกิดบลูมูน 2 ครั้งซ้อนในหนึ่งปี (Double Blue Moons) คือปี พ.ศ. 2542 และจะเกิดครั้งต่อไปในปี พ.ศ. 2561 

        สำหรับการเกิดบลูมูน ในรอบทุกๆ 2.72 ปีต่อครั้ง จะเกิดขึ้นในปี 2555 วันที่ 31 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ เราจะได้เห็นดวงจันทร์เต็มดวง รอบที่สองในเดือนเดียวกัน ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เวลาประมาณ 18.18 น. โดยดวงจันทร์เต็มดวงอย่างสมบูรณ์เวลาประมาณ 20.57 น. และตกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเช้าของวันที่ 1 กันยายน 2555 เวลาประมาณ 05.37 น. ตามเวลาประเทศไทย ทั้งนี้ ดวงจันทร์จะสว่างเต็มดวงเหมือนเช่นเคย โดยไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินแต่อย่างใด 
        ทั้งนี้ปรากฏการณ์ Blue Moon ครั้งต่อไป จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 กรกฎาคม 2558 

http://www.tnnthailand.com/news/details.php?id=47898

..............................................................................

10 อาชีพฮอตฮิตที่สุดในอนาคต...



1. วิศวกรเนื้อเยื่อ
อนาคตโลกเราจะมีผิวหนังปลอม และกระดูกอ่อนเทียมออกวางจำหน่าย นักวิจัยสามารถสร้างลำไส้และกระเพาะปัสสาวะใหม่ขึ้นมาในช่องท้องของสัตว์ เป็นการเริ่มต้นสร้างเนื้อเยื่อของตับ หัวใจ และไต ขึ้น

2. นักวางโครงสร้างยีน
แผนผังโครงสร้างทางพันธุกรรม (ยีน)ของมนุษย์ทำให้ช่างเทคนิคสามารถสร้างหรือเปลี่ยนแปลงหน่วยทางพันธุกรรมของมนุษย์แต่ละคนได้ ด้วยการเขียนรหัสคอมพิวเตอร์ขึ้นมาใหม่ เมื่อมีการสแกนภาพของดีเอ็นเอเราเพื่อหาข้อบกพร่อง แล้วหมอจะใช้การบำบัดทางพันธุกรรมออกมาใช้ มีการคัดเลือกเอาแต่โมเลกุลที่ฉลาดๆ เพื่อป้องกันปัญหาบางอย่าง เช่น โรคมะเร็ง

3. ชาวนา
เกษตรกรยุคใหม่จะปลูกพืชพรรณต่างๆ มีการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งผ่านการดูแลทางด้านพันธุวิศวกรรมมาก่อนแล้ว
โครงการนี้เริ่มก้าวหน้ามากแล้ว มีทั้งวัคซีนที่จะฉีดให้มะเขือเทศโตและวิทยาการอื่นๆ

4. ผู้ตรวจสอบเรื่องอาหาร
ไม่ต้องกังวลว่าจะมีอะไรกินในมื้อค่ำ เมื่อมีปลาที่โตเร็ว และมีการตัดต่อทางพันธุกรรม ทำให้มี
อาหารพอสำหรับประชากรที่ล้นโลก แต่ก็จะต้องระวังเรื่องผลกระทบทางพันธุกรรมต่างๆด้วย

5. นักขุดข้อมูล
อนาคตจะมีนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญมาจัดการข้อมูลของที่ต่างๆ เขาจะรู้รูปแบบพฤติกรรมของผู้คน ทำให้เป็น
ประโยชน์ต่อนักการตลาดมาก

6. ช่างซ่อมด่วนตามสาย
ถ้าคุณไม่สามารถจัดการกับบรรดาเครื่องเล่นวิดีโอหรือว่าดีวีดีได้ละก็ คุณจะมีรีโมทที่ทำหน้าที่ดูแล
อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างในบ้าน แต่ก็น่าจะยังมีช่างซ่อมที่เราจะเรียกใช้บริการตามสายผ่านวิดีโอโฟนอยู่บ้าง

7. นักแสดงแบบ Virtual Reality
การชมโทรทัศน์แบบเสียเงินจะกลายเป็นการจ่ายต่อครั้งที่มีการแสดง ต่อไปนักแสดงจะมีปฏิกิริยากับเราได้ในโลกของละคร Cyber Space อาชีพนักเขียนบทก็ยังจะมีคนต้องการสูงเพราะคงจะมีบทแปลกๆ อีกมาก

8. นักโฆษณาเพื่อคนๆเดียว
อุตสาหกรรมโทรทัศน์จะมุ่งเน้นไปที่บุคคลมากขึ้น นักโฆษณาจะสร้างสรรค์เนื้อหาโฆษณาของสินค้าเพื่อ
ผู้บริโภคแต่ละคนโดยเฉพาะ แต่ก็จะมีโฆษณาอื่นๆที่พยายามดึงความสนใจเราด้วยกลิ่นและรส เพื่อส่งกระแสกระตุ้นให้เราอยากซื้อสินค้าในทันที

9. มนุษย์เลียนแบบ
วิศวกรคอมพิวเตอร์ยังคงพยายามที่จะเลียนแบบสติปัญญาของมนุษย์ ในอนาคตเราจะแยกไม่ออกเลยว่าเรากำลังคุยกับคนหรือหุ่น เจ้ามนุษย์หุ่นยนต์นี้จะทำหน้าที่ดูแลลูกค้า หรือเป็นคนคอยสรุปอีเมล์ให้เรา หรือแม้กระทั่งตอบจดหมายแทนเราเลย

10. วิศวกรแห่งความรู้
นักเลียนแบบสติปัญญาของมนุษย์จะแปลผลงานหรือการทำงานของเราลงไปเป็นซอฟท์แวร์ ทำให้สมองพวกเรามีขนาดเล็กลง

ขอบคุณ : http://www.myhappyoffice.com/index.php/2012/08/future-popular-career/ 

...................................................................................

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ทายนิสัยจากเส้นที่ชอบรับประทาน



        ชอบทานอาหารจำพวกเส้นกันไหมครับ?  ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยว  ขนมจีน  หรือว่าสปาร์เก็ตตี้  เขาว่าเส้นที่เราชอบทานกันบ่อยๆ
        ทายนิสัยได้  ไปดูกันว่าที่เขาทายมาแม่นไหม??

เส้นใหญ่
ถ้าคุณชอบทานก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ แสดงว่า คุณเป็นคนหนักแน่น ทำอะไรทำจริงแบบไม่ดีไม่ได้ไม่เลิก แต่จะเป็นคนอ่อนไหวอะไรที่มากระทบกับความรู้สึกจะครุ่นคิดและ วิเคราะห์หาที่มา และบางครั้งทำให้เครียด ไม่ค่อยพูด เงียบครึม ตรึกตรอง ทบทวน รักเพื่อน รักสัตว์ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นและยังชอบแก้ปัญหาให้คนอื่นอีกด้วย

เส้นเล็ก
ถ้าคุณชอบทานก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก แสดงว่าคุณเป็นคนรวยอารมณ์ขัน เพื่อนฝูงมากมาย มีมุขฮาตลกๆให้คนรอบข้างได้ขำเสมอ เป็นศูนย์รวมของเพื่อน ไม่ชอบคิดเล็กคิดน้อย และแม้มีปัญหาเข้ามาในชีวิตคุณก็ยังยิ้มเสมอ แต่ค่อนข้างขาดความเชื่อมั่นในตัวเองในบางครั้ง ไม่กล้าชนปัญหาแต่ยิ้มกับปัญหา ค่อนข้างเจ้าชู้เสน่ห์แรงพอตัว รักเพื่อนมากบางครั้งอาจลืมคนใกล้ตัวไปบ้าง

  เสันหมี่
ถ้าคุณชอบทานก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่ คุณเป็นคนเก็บตัว แต่เรียนเก่งชะมัด ใฝ่รู้ รักการอ่าน ชอบค้นคว้าชนิดหนอนหนังสือเลยทีเดียว ร้านหนังสือตามห้างมักได้เงินจากคุณอย่างสม่ำเสมอ ความโรเเมนติกอยู่คู่กับคุณ คุณเป็นคนปราณีตกับแฟน เอาใจใส่ทุกเรื่องทุกรายละเอียด แต่แฟนของคุณอย่าลืมวันเกิดเชียว คุณจะงอนไปเลย แฟนคุณกว่าจะเดาอาการคุณออก คุณก็งอนเรื่องใหม่ซะแล้ว

  เส้นบะหมี่
ถ้าคุณชอบทานก๋วยเตี๋ยวเส้นบะหมี่ แสดงว่าคุณเป็นคนที่ชอบโลดโผนผจญภัย ท่องเที่ยวไปทุกที่ แต่จะมักไม่ค่อยโรแมนติก หากมีแฟน แฟนของคุณจะต้องเข้าใจคุณเป็นอย่างมากมากๆถึงมากที่สุด คุณมักมุ่งไปข้างหน้า ไม่มองข้างหลัง มีความฝัน ค้นหา ท้าทาย แต่ไม่ชอบวางแผนชีวิต คุณเป็นคนรักของครอบครัวและเพื่อนฝูง อีกทั้งคุณยังเป็นคนใจดี

  เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ( หรือมาม่า ไวไวฯ)
ถ้าคุณชอบทานก๋วยเตี๋ยวเส้นบะหมี่กี่งสำเร็จนี้ คุณเป็นคนถือตัวชะมัด ไม่ชอบง้อใคร ไม่ชอบขอใคร พึ่งพาตนเอง ไม่มีใครรู้สถานะที่แท้จริงของคุณหรอก คุณชอบและรักเสียงเพลง ละเมียดละมัยพอประมาณ เป็นคนฟุ่มเฟือย แต่ทำงานเก่ง การเรียนไม่เท่าไหร่ กิจกรรมเด่น แต่ออกจะเจ้าอารมณ์ บางครั้งพาลไม่มีเหตุผลเอาดื้อๆ

  เส้นขนมจีน
ถ้าคุณชอบทานเส้นขนมจีน เขาว่าคุณเป็นคนขี้เหนียว แต่คุณบอกเพื่อนว่าคุณถูกสอนให้รู้จักใช้เงิน คุณไม่ชอบซื้อของพร่ำเพรื่อ แต่ชอบซื้อของดี แพงไม่ว่า ถ้าถูกใจคุณคุณสามารถเททั้งกระเป๋าแบบไม่สนใจใคร คุณขี้รำคาญคน แต่ชอบช่วยเหลือสังคม อาชีพ ส.ส. น่าจะเหมาะกับคุณ คุณเป็นคนช่างเลือกแฟนของคุณต้องดูดีเสมอ ถ้าไฮโซยิ่งดี มีสีหน่อยคุณจะภูมิใจมาก คุยทั้งวันไม่หยุด

เส้นสปาร์เก็ตตี้
ถ้าคุณชอบทาน เส้นสปาร์เก็ตตี้ คุณเป็นคนดุ น่าจะเป็นครูปกครอง หรือเป็นตำรวจสายปราบปราม ทำงานด้านกฎหมายยิ่งดีใหญ่ ใครอย่ามาเอาเปรียบคุณเชียว คุณเอาเรื่องไม่เลิก แต่คุณไม่ชอบก้าวก่ายใคร ไม่ชอบการเมือง ส่วนตัวคุณเป็นคนโอบอ้อมอารี แต่ไม่แสดงออก เวลาน้ำท่วมไฟไหม้ที่ไหนไปดูซิ มีของที่คุณนำไปบริจาคเพียบ แต่คุณไม่ติดชื่อของคุณไปด้วยหรอก

ที่มา  :  กระปุกดอทตอม

......................................................................................

เรื่องของคนถนัดซ้าย




ดร.แพง ชินพงศ์
       เนื่องจากมนุษย์มี 2 มือ ดังนั้นจึงแบ่งความถนัดของมือมนุษย์ออกเป็น2 แบบ คือ “ถนัดมือขวา” และ “ถนัดมือซ้าย” ซึ่งจากสถิติโดยทั่วไปของประชากรโลกแล้ว จะมีคนที่ถนัดมือขวาอยู่ประมาณ 85% และคนถนัดมือซ้ายอยู่ประมาณ 15% แต่การที่คนเราจะถนัดมือข้างไหนนั้น นักวิชาการเชื่อว่ามันเริ่มมาตั้งแต่เรายังไม่เกิดด้วยซ้ำไป โดยสังเกตเห็นได้จากการที่ทารกในครรภ์มารดาวางมือใดไว้ใกล้ปากมากที่สุด มือนั้นก็จะเป็นด้านที่ถนัดที่สุดในเวลาต่อมา แต่หากจะให้แน่ใจจริงๆหรือจะรู้ว่าคนนั้นถนัดมือซ้ายหรือมือขวากันแน่นั้น ต้องดูตอนที่มีอายุประมาณ 2-3 ขวบขึ้นไป โดยสังเกตจากการที่เด็กชอบใช้มือข้างไหนในการหยิบจับสิ่งของ ใช้มือข้างไหนในการใช้ช้อนตักอาหารเข้าปาก ใช้มือข้างไหนในการจับดินสอปากกาในการเขียนหนังสือหรือวาดรูประบายสี มือข้างนั้นก็จะเป็นมือข้างที่เด็กถนัดมากกว่าอีกข้างนั่นเอง
       แล้วการที่คนเราจะถนัดมือขวาหรือถนัดมือซ้ายมันมีความสำคัญอย่างไรที่จำเป็นต้องกล่าวถึง จริง ๆ แล้วไม่ได้มีความสำคัญโดยนัยที่แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติของมนุษย์ที่มีความถนัดในมือที่ต่างกันแต่อย่างใด แต่บางครอบครัวมักคิดเอาเองว่าการที่ลูกซึ่งมีความถนัดมือซ้ายนั้น อาจมีความบกพร่องอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ร่างกาย ยิ่งคนสมัยโบราณด้วยแล้ว ถ้าเห็นลูกถนัดซ้ายก็จะบังคับให้ลูกฝึกไปใช้มือขวาให้คล่องแทน ทั้งตีบ้าง ดุบ้าง บังคับสารพัด ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้นเลย 
       เพราะหากจะพูดไปแล้ว มันเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดโดยพันธุกรรมและเป็นไปตามกระบวนการทำงานของสมองของมนุษย์ โดยคนที่มีความถนัดซ้ายจะถูกควบคุมโดยสมองซีกขวา ส่วนคนที่ถนัดขวาก็จะถูกควบคุมโดยสมองซีกซ้าย และตามหลักการทำงานของสมองก็สอดคล้องกับการกำหนดคุณลักษณะของมนุษย์ โดยสมองซีกขวาจะใช้ในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ คนถนัดซ้ายส่วนมากจึงมักเป็นคนที่มีความสามารถทางด้านศิลปะหรือมีความเป็นศิลปินสูง เพราะเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ดีนั่นเอง ตัวอย่างเช่น โมสาร์ท, บีโทเฟ่น, บาค ส่วนสมองซีกซ้ายจะใช้ในเรื่องของตรรกะหรือเหตุผล คนถนัดขวาส่วนมากจึงมักเป็นคนที่ชอบคิดหาเหตุผล การวิเคราะห์ การคิดเลข เช่น พวกนักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ อย่างเช่น ไอสไตน์, นิวตัน, บิล เกตต์

       เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรกังวลอีกต่อไปว่าลูกเราถนัดซ้ายจะมีความผิดปกติหรือไม่เพราะเห็นว่าไม่เป็นเหมือนคนส่วนใหญ่ที่มีความถนัดขวา เพราะไม่ว่าจะถนัดซ้ายหรือถนัดขวาต่างมีข้อดีด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งข้อดีของคนถนัดซ้ายมีดังนี้ คือ 1) คิดได้เร็ว 2) ทำงานที่ซับซ้อนได้ดี 3) ทำกิจกรรมพร้อมกันหลาย ๆ อย่างได้ดี 4) มีความสามารถด้านภาษาและกีฬามากกว่าคนถนัดขวา
       จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกิ้นส์ (2006) พบว่านักศึกษาที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นคนถนัดซ้ายมีรายได้จากการทำงานโดยเฉลี่ยสูงกว่าคนถนัดขวาร้อยละ 25 
       ดร.ดิ๊ก เชอร์บิน จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ได้ทำการวิจัยโดยให้อาสาสมัครถนัดขวา 80 คน และอาสาสมัครถนัดซ้าย 20 คนทดสอบด้วยการจับคู่ตัวอักษร ซึ่งพบว่าคนถนัดซ้ายทำคะแนนได้ดีกว่า เมื่อตัวอักษรปรากฏขึ้นพร้อมกันทั้งสองด้านของจุดบนหน้าจอ ขณะที่อาสาสมัครถนัดขวาได้คะแนนดีกว่าเมื่อตัวอักษรปรากฏขึ้นที่ด้านใดด้านหนึ่งของจุด นั่นหมายความว่าคนถนัดซ้ายจะใช้สมองทั้งสองซีกได้ดี ซึ่งสอดคล้องกับสมาคมจิตแพทย์อังกฤษที่อ้างอิงว่าคนถนัดซ้ายมีแนวโน้มที่จะใช้สมองทั้งสองซีกพร้อมกันได้ดีกว่าคนถนัดขวา จึงทำให้มีความสามารถในการใช้ภาษา เล่นกีฬา และทำอะไรที่ซับซ้อนได้ดีนั่นเอง
       ตัวอย่างของคนถนัดซ้าย เช่น      
       - ผู้กล้าในประวัติศาสตร์ ทั้งจูเลียส ซีซาร์, อเล็กซานเดอร์มหาราช, นโปเลียน
       - ประธานาธิบดีของประเทศอเมริกาหลายคนเป็นคนถนัดซ้าย ทั้งบารัค โอบาม่า, บิล คลินตัน, บุช, เรแกน, ฟอร์ด 
       - ศิลปินชื่อก้องโลก ทั้งลีโอนาร์โด ดาวินชี, ไมเคิล แองเจโล, ปิกัสโซ 
       - ดาราที่มีชื่อเสียง ทั้งชาร์ลี แชปลิน, มาริลีน มอนโร, ทอม ครูซ, นิโคล คิดแมน, แบรด พิทท์, แองเจลินา โจลี่, เลดี้ กาก้า
       
       แม้ว่าการถนัดซ้ายจะไม่ใช่สิ่งผิดปกติและมีข้อดีหลายอย่าง แต่ปัญหาของคนถนัดซ้ายก็มีบ้าง อย่างเช่นคนถนัดซ้ายอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าคนถนัดขวา เนื่องจากสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ นั้นล้วนถูกสร้างขึ้นจากคนถนัดขวาและถูกออกแบบไว้เพื่อคนถนัดขวา ไม่ว่าจะเป็นที่เปิดขวด กรรไกร พิมพ์ดีด กล้องถ่ายรูป เลื่อนประตู หน้าต่าง ฯลฯ ดังนั้น หลายครั้งเมื่อคนถนัดซ้ายหยิบจับสิ่งของเหล่านี้จะเกิดอาการไม่ถนัดติดขัด จึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าคนถนัดขวา แม้ปัจจุบันจะมีการผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับคนถนัดซ้ายมากขึ้นแต่ก็ซื้อได้ในบางที่บางแห่งเท่านั้น
       และผู้คนที่ใกล้ชิดกับคนถนัดซ้าย โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ถนัดซ้าย ผู้ใกล้ชิดควรใช้ความระมัดระวังกับตัวเด็กนั้นให้มากๆ อย่างเช่นตัวผู้เขียนเองก็เป็นคนหนึ่งที่ถนัดมือซ้าย เขียนหนังสือมือซ้าย ทานอาหารด้วยมือซ้าย เล่นปิงปอง ตีแบดมินตันด้วยมือซ้าย ดีที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้บังคับให้เลิกใช้มือซ้ายและไม่ได้บังคับให้ใช้มือขวาแทน แต่ตอนเด็ก ๆ ผู้เขียนจำได้ดีว่าเมื่อถึงตอนที่ต้องฉีดวัคซีนที่โรงเรียน เด็ก ๆ ส่วนใหญ่จะถูกฉีดวัคซีนที่ไหล่ข้างซ้ายเพราะไม่ใช่ข้างเดียวกับข้างที่ถนัดและเป็นข้างที่ต้องใช้เขียนหนังสือ คุณครูซึ่งตอนนั้นต้องคอยดูแลเด็ก ๆ หลายคนลืมไปว่าผู้เขียนเป็นเด็กถนัดมือซ้ายคนเดียวในชั้นเรียนจึงไม่ได้บอกให้คุณหมอฉีดยาที่ไหล่ข้างขวา คุณหมอจึงฉีดยาให้ที่ไหล่ข้างซ้าย ปรากฏว่าผู้เขียนไม่สามารถใช้มือได้เลยเพราะปวดมากและเป็นไข้อยู่หลายวัน
       
       “การถนัดมือซ้าย” ไม่ใช่ความผิดปกติ แต่เป็นความถนัดตามธรรมชาติ ดังนั้น เมื่อธรรมชาติสร้างให้เราเป็นแบบนี้เราก็ควรจะภาคภูมิใจกับสิ่งที่เรามีเราเป็น เพราะไม่ว่าจะเป็นมือข้างไหนเราก็สามารถใช้มันสร้างสรรค์งานและสิ่งที่ดีมีประโยชน์ได้ไม่ต่างกัน

.................................................................................

เรื่องของแหวนหมั้นและแหวนแต่งงาน



        ไม่ว่าจะเป็นคู่รักคู่ไหน ๆ ก็ให้ความสำคัญกับ "แหวนแต่งงาน" ด้วยกันทั้งนั้นแหละ เพราะแหวนแต่งงานนั้นเป็นสิ่งที่จะใช้แทนสัญลักษณ์ความรักของคนทั้งคู่ ดังนั้น ทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าวจึงใช้เวลาและความพิถีพิถันเป็นพิเศษในการเลือกแหวนแต่งงาน อย่างไรก็ตาม นอกจากแหวนแต่งงานแล้ว "แหวนหมั้น" ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะเป็นแหวนคู่ที่เราใช้แสดงความรักกันไว้ก่อนแต่งงาน


         ทั้งนี้ การเลือกใช้ "แหวนหมั้น" และ "แหวนแต่งงาน" ก็มีหลายแบบ ซึ่งบางคู่อาจใช้แหวนแต่งงานและแหวนหมั้นเป็นแหวนวงเดียวกันไปเลย ในขณะที่บางคู่อาจเลือกใช้แหวนคนละวง และเลือกที่จะใส่แหวนหมั้นที่นิ้วนางข้างซ้ายในช่วงหมั้นหมายไว้ก่อน จากนั้นจึงค่อยสวมแหวนแต่งงานซ้อนอีกวงในวันแต่งงาน และเพราะมีคนมากมายที่เลือกใช้แหวนสองวง ร้านเพชรต่าง ๆ จึงมีคอลเล็คชั่นแบบที่ทำแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานไว้ในเซ็ตเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการเลือกของลูกค้าด้วย


         อย่างไรก็ดี สุดท้ายแล้วแหวนที่เราใส่ติดนิ้วตลอดเวลานั้น ก็คือ "แหวนแต่งงาน" นั่นเอง โดยที่ส่วนใหญ่แล้ว แหวนแต่งงานของฝ่ายเจ้าสาวมักจะมีดีไซน์ให้เลือกหลากหลายแบบ ในขณะที่ของฝ่ายเจ้าบ่าวมักมีดีไซน์แบบเรียบ ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับเสื้อผ้าทุกแบบ ส่วนแหวนหมั้นในช่วงหลังแต่งงานนั้น เจ้าสาวบางคนอาจเลือกเก็บไว้ใส่เฉพาะเวลาออกงานสำคัญ ๆ ได้เช่นกัน

         ดังนั้น ทั้งแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานจึงถือว่ามีความสำคัญกับบ่าวสาวทุกคู่ เราจึงควรใช้เวลาเลือกและเปรียบเทียบคุณภาพรวมถึงราคาให้ดี เพราะแหวนทั้งสองวงนั้นเป็นสิ่งที่มีความหมายกับความรักของเราอย่างมาก อย่างไรก็ตาม วันนี้กระปุกเวดดิ้งได้นำเอาแบบแหวนแต่งงานสไตล์ต่าง ๆ มาฝากกันด้วยครับ...


.....................................................................................



วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

20 ร้านอร่อย...[Part 2]



เที่ยงนี้ถ้านึกไม่ออกว่าจะทานอะไรผมมีร้านอร่อยๆ มาฝาก...

21. ปลาหมึกย่าง สยามสแควร์ :
คุณป้าใช้ปลาหมึกสดๆ จิ้มน้ำจิ้มรสเด็ด ราคาอาจสูงไปนิด แต่ก็สมเหตุสมผลกับค่าทำเล และคุณภาพอาหาร อยู่ในสยามสแควร์ ซอย 4

22. ไก่ทอด 7 กระทะ :
ไก่ทอดจนกรอบเกรียม รวมกับกระเทียมเจียวร้อนๆ ทำให้มีลูกค้ามากมายมายืนรอ เมื่อไม่ทันใจจึงต้องใช้กระทะถึง 7 ใบ จากแยกรัชดา-สุทธิสาร มุ่ง หน้าเข้าแยกที่จะลัดออกสู่ลาดพร้าว อยู่ทางซ้ายมือ

23. ไก่ทอดเจ๊กี :
บางคนเรียกไก่ทอดโปโล เพราะตั้งอยู่ในซอยโปโล ตรงข้ามสวนลุมพินี เป็นร้านเก่าร้านแก่ตั้งแต่รุ่นเจ๊กี คือคุณแม่ คิดสูตรไก่ทอดโรยกระเทียมเจียวหอม พร้อม อาหารประเภทส้มตำน้ำตก เปิดบริการตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า มีบริการจัดส่งบริเวณใกล้เคียง โทรศัพท์สั่งได้ที่ 0 2655 8489

24. เป็ดย่างพูลสิน :
เลยวัดตรีทศเทพมาเล็กน้อย เป็ดย่างสุกกำลังเหมาะจนหนังกรอบ เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว

25. ห่านพะโล้ฉั่ว คิมเฮง :
ตรงมาจากถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ข้ามแยกคลองตันมาถนนพัฒนาการ จะเห็นร้านใหญ่ซ้ายมือ ร้านดั้งเดิมปัจจุบัน ยังอยู่ท่าดินแดง ชื่อฉั่วกิมฮวด เก่าแก่ จนได้รับฉายาว่าเป็นห่านสามชั่วคน

26. ไก่ย่างจิร พันธ์ :
ร้านขายอาหารอิสลามล้วนๆ นอกจากไก่ย่างยังมีเนื้อสะเต๊ะ ข้าวหมกไก่ แถมด้วย ข้าวหมกแพะ จากถนนรามคำแหงเลี้ยวซ้ายที่แยกพระราม 9 มุ่งหน้าไป ทางมอเตอร์เวย์ จะอยู่ทางซ้ายมือ เลยปั๊มเชลล์ ไปประมาณ 500 เมตร

27. เนื้อย่างเกาหลี สูตรบึงพลาญชัย :
ต้นตำรับดั้งเดิมขายอยู่ใกล้ๆบึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด คุณนิภานำสูตรมาตั้งร้านที่หมู่บ้าน ต.รวมโชค ซอยโชคชัย 4 ถนนลาดพร้าว จุดเด่นอยู่ที่น้ำซุปรอบๆ หม้อย่าง สามารถทานได้เลย เพราะผ่านการปรุงมาแล้ว

28. สะอาด :
ขายเสต๊กที่ผ่านการดัดแปลงรสชาติ ให้เข้ากับคอคน จีนได้เป็นอย่างดี ในร้านยังมีก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส เป็นเมนูเด็ดประจำร้าน อยู่บนถนนอิสรภาพ ใกล้สี่แยกบ้านแขก

29. ห่านพะโล้ สะพานเหลือง :
ผ่านการต้มมาอย่างดีจนเนื้อไม่เหนียว และไม่คาวเหมือนห่านพะโล้ทั่วๆไป อยู่ย่านสะพานเหลือง ริมถนนพระราม 4 ถ้ามุ่งหน้าหัวลำโพงจะอยู่ ด้านซ้ายมือ ก่อนถึงแยกบรรทัดทอง

อาหารว่างและของหวาน

30. กาแฟโบราณเอี๊ยะแซ :
โบราณสมชื่อ เพราะเปิดมาแล้วเจ็ดสิบกว่าปี ใช้เมล็ดกาแฟจากไร่ประจำ นำมาคั่วทำให้ได้รสกาแฟแท้ดั้งเดิม เปิดรับคนตื่นเช้าตั้งแต่ตีสี่ครึ่งไปจนถึง สี่ทุ่ม ที่ร้านบนถนนเยาวราช-พาดสาย ตรงข้ามเท็กซัสสุกี้ นอกจากนี้ยังหาดื่มได้ ตามศูนย์อาหารทั่วกรุงเทพฯ และเซ็นเตอร์พ้อยท์ เอาใจคอกาแฟรุ่นใหม่

31. ขนมเบื้องวังเดิม :
สังเกตเห็นได้ง่าย เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่า ขนมเบื้องธรรมดา ใช้แป้งถั่วเขียวละเลงเป็นแผ่น เพราะหอมกว่าแป้งสาลี แล้วเคลือบด้วยไข่ มีให้เลือกทั้งไส้ หวาน และไส้เค็มชื่อวังเดิม เพราะร้านเก่าอยู่แถววังเดิม เดี๋ยวนี้อยู่ลานอาหารไทย ดิโอลด์สยามพลาซ่า

32. ไอศกรีมทิพรส :
ไอศกรีมกะทิหลากชนิด มีให้เลือกทั้งกะทิโบราณ กะทิรวมมิตร และกะทิทรงเครื่อง มีบริการแพ็คกลับบ้านได้ ราคาไม่แพง อยู่บริเวณสี่แยกเตาปูน มุ่งหน้า ไปทางตลาดเตาปูน

33. ร้านขนมไทยหวาน ดำรงค์ :
ร้านปัจจุบันเปิดมาตั้งแต่ปี 2508 ได้มรดกทางฝีมือการทำขนมมาจากคุณแม่ ซึ่งเจ้าของร้านถ่อมตัวว่า ไม่ได้มาจากวังไหน แต่คุณหญิงหลายๆ ท่านก็มาสั่งทำขนมชั้นขนาดใหญ่ตะโก้ และขนมเปียกปูน อยู่เสมอๆ ร้านเปิดเจ็ดโมงเช้า ถึงหนึ่งทุ่ม หยุดวันอาทิตย์ อยู่ในตลาดเจริญ ผล ใกล้สี่แยกเจริญผล หรือจะโทรศัพท์สั่งก็ย่อมได้ ที่ 0 215 2345

34. ถั่วแปบ ซอยละลายทรัพย์ :
เดิมขายสาคูและข้าวเกรียบปากหม้อ แล้วมาทำถั่วแปบเสริม แต่ด้วยความที่ถั่วแปบเจ้านี้แป้งนิ่มกำลังดี ลูกค้าหันมาซื้อกันมากจนทำไม่ทัน จึงต้อง หันมาขายเฉพาะถั่วแปบเป็นหลัก ที่ซอยละลายทรัพย์ ถนนสีลม

35. ปอเปี๊ยะ/ มะตะบะ ท่าพระจันทร์ :
กรรมวิธีการทอดต่างจากร้านอื่น ตรงทอดแป้งเป็นแผ่นบางโรยด้วยไส้ นำมาซ้อนกัน 3 ชั้น ห่อด้วยแป้งแล้ว จึงทอดอีกครั้ง วิธีนี้จะทำให้ มีความกรอบ และนุ่มพอดิบพอดี ร้านใกล้ๆ กันขายปอเปี้ยะทอด ที่ใส่เครื่องกุ้ง และหมูสับเต็มๆ คำ รสดีด้วยเครื่องเทศและความกรอบใหม่

36. โรตีกรอบ หน้าเพาะช่าง :
พัฒนามาจากโรตีแผ่นกลมธรรมดา มาเป็นโรตีแผ่นสี่เหลี่ยมทอดจนกรอบ ใส่กล่องหรือใส่จาน แนะนำให้ทานร้อนๆ จะอร่อยเป็นทวีคูณ
37. เซ็งซิมอี๊ :
อี๊ หมายถึงแป้งที่ปั้นเป็นรูปร่างต่างๆ ส่วนเซ็งซิม หมายถึงชื่นใจ เซ็งซิมอี๊ ร้านที่ว่าเป็นร้านสะท้านโลกันต์ อยู่บริเวณตลาดสวนหลวงเช่นกัน ขายช่วงเย็นๆ ไปจน ค่อนคืน

38. ลอดช่อง สิงคโปร์ :
ชื่อร้านประโยชน์ อยู่ระหว่างสามแยกกับวงเวียน 22 เป็นร้านเล็กๆ แต่รสชาติไม่เล็กเหมือนร้าน

39. ไอศกรีมไข่แข็ง :
โดยการใส่ไข่แดงล้วนๆ ลงในไอศกรีมกะทิ ความเย็นจะกลบกลิ่นคาว กลายเป็นรสชาติหอมมันแทน ร้านอยู่ถัดจากเซ็งซิมอี๊ที่ตลาดสวนหลวงไปประมาณ 2-3 ห้อง

40. ซ่าหริ่มชูถิ่น :
บอกชื่อไป ไม่มีใครไม่รู้จัก ขายทั้งซ่าหริ่มและขนมไทยอีกหลายชนิด คนชอบทำขนมหลายคน ดีอกดีใจที่ร้านนี้มีแป้ง ทำขนมขาย พร้อมวิธีทำบอกเสร็จสรรพ แต่จริงๆ แล้วร้านเขาขายแป้งมาแต่เดิมต่างหาก
.....................................................................................


สอบถามข้อมูลการลงทุนเพิ่มเติม โทร. 081-575-8928
....................................................................................


ด่วนๆ! เปลี่ยน iPhone 4/4S เป็น iPhone 5แค่ 900 บาทไม่ง้อ Apple!...


 

iPhone 5 อัพเดทข่าวล่าสุดกับ ป๋าเอก TechXcite สำหรับสาวก Apple ที่ใช้งาน iPhone 4/4S และไม่มีสตุ้งสตางค์พอจะรอซื้อ iPhone 5 เครื่องหิ้วในราคามหาโหดได้ หรือบางคนอาจจะเพิ่งถอย iPhone 4/4S มาใหม่ๆเลยไม่เห็นเหตุให้ต้องไปเห่อแหนตามกระแส iPhone 5 แต่อย่างใด วันนี้ป๋าเอกมีนวัตกรรมเด็ดๆมานำเสนอกันอีกแล้วที่จะเปลี่ยนสมาร์ตโฟน iPhone 4/4S ในมือคุณให้กลายเป็น iPhone 5 ได้ในราคาที่สบายกระเป๋าคนไทยยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ดเสียด้วยสิ

โดยในเวลานี้มีเว็บไซต์แนวๆชื่อว่า iPhone5mod.com ซึ่งเปิดบริการให้ผู้ใช้งาน Apple สามารถนำ iPhone เครื่องเก่าไปดัดแปลงฝาหลังให้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่เหมือนกับภาพหลุดบอดี้ iPhone 5 ที่มีให้ชมกันว่อนโลกออนไลน์นั่นเอง ซึ่งจากภาพที่มีการนำมาโปรโมตกันนั้นก็ต้องบอกว่า iPhone5mod เขาดัดแปลง iPhone 4/4S ให้กลายเป็น iPhone 5 ได้แบบเนียนตาจริงๆชนิดที่ว่าถ้าเอามาให้ป๋าดูตัวจริงก็อาจจะต้องอุทานลั่นออฟฟิศว่าโอ้แม่เจ้า...นี่มัน iPhone 5 นี่หว่า!!!

        ทั้งนี้สำหรับบริการเปลี่ยนฝาหลัง iPhone 4/4S เป็น iPhone 5 นั้น จะมีให้เลือกทั้งแบบสีดำและสีขาวเสียด้วยโดยสนนราคาค่าบริการกันอยู่ที่ $29.99 (900 บาท) เท่านั้นเอง เอาเป็นว่าใครที่สนใจก็ลองแวะเวียนเข้าไปขอรับบริการกันได้ที่เว็บไซต์ iPhone5mod.com ตามลิงค์ที่ป๋าให้ไว้ตรงนี้กันได้เลยจ้า :)

YOUTUBE:  http://youtu.be/x4EXHXyaZ08
บทความโดย : ป๋าเอก TechXcite
อ้างอิง  : micgadget
ที่มา  : IT PLAZA: เปลี่ยน iPhone 4/4S เป็น iPhone 5 ราคาแค่ 900 บาทไม่ง้อ Apple!


...................................................................................

มังคุดทำลายเซลล์มะเร็ง...



           สำนักกวิทย์ศึกษาสารสกัดจากเปลือกมังคุด พบฤทธิ์จู่โจมเฉพาะเซลล์มะเร็งในร่างกาย โดยไม่สร้างความเสียหายให้เซลล์ดีที่อยู่รายรอบ มั่นใจงานวิจัยสามารถพัฒนาเป็นยามะเร็งประสิทธิภาพสูงในอนาคต
          รศ.ดร.รมิดา วัฒนโภคาสิน ภาควิชาเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เปิดเผยว่า ใช้เวลากว่า 2 ปีศึกษาฤทธิ์ต้านมะเร็งจากสมุนไพร หลังจากเชื่อว่าสมุนไพรบางชนิด อาทิ มังคุด ขมิ้นชัน ใบพุทรา สามารถต้านเซลล์มะเร็ง ทั้งนี้ ผลจากการทดสอบพบว่า สารสกัดจากเปลือกมังคุดสามารถจัดการกับเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี แม้จะใช้เพียงเล็กน้อยเพียง 4 มิลลิกรัมก็ตาม

          สารสกัดจากเปลือกมังคุดที่นำมาใช้ในการศึกษานี้ ได้รับการสนับสนุนจากคณะวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยการทดสอบพบว่า สารสกัดในปริมาณ 4 มิลลิกรัมดังกล่าว สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้กว่า 50% ของเซลล์มะเร็งทั้งหมด และจากการขยายผลนำสารสกัดไปทดสอบกับเซลล์มะเร็งอื่น ก็พบว่าสามารถออกฤทธิ์ดีในการทำลายเซลล์มะเร็งลำไส้และเซลล์มะเร็งตับ
          นอกจากนี้ นักวิจัยยังได้ศึกษาเทคนิคการรักษามะเร็งด้วยยีนบำบัด โดยนำสารสกัดจากมังคุดใส่ในเม็ดบีดขนาดจิ๋วระดับนาโน จากนั้นอาศัยไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนตัวและไม่เป็นอันตราย เป็นตัวนำเม็ดบีดนั้นเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ ซึ่งวิธีดังกล่าวสามารถที่จะประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย หรือโรคเลือดจาง ส่วนสารสกัดจากสมุนไพรขมิ้นชันและใบพุทรา ยังอยู่ระหว่างการศึกษา

ที่มา: สถาบันการแพทย์แผนไทย

8 เรื่องเล็กๆ ที่ควรทำบ่อยๆ


        ตำราแพทย์จีนสอนมาว่า เรื่องบางเรื่องไม่ทำเป็นดีที่สุด
แต่ถ้าเป็น 8 พฤติกรรมในชีวิตประจำวันต่อไปนี้ ทำเข้าไปเหอะ สุขภาพดีแน่นอน

        1 .เคลื่อนไหวดวงตา
        การเพ่งสายตาไปที่จุดใดจึดหนึ่งนานๆเป็นการทำลายสายตาโดยตรง
อย่างน้อยๆทุกหนึ่งชั่วโมงทุคนควรบริหารสายตาด้วยการ เหลือกตา
ขึ้นบนเพดาน ค่อยๆกลิ้งดวงตาไปทางซ้าย วนลงล่างแล้วกลอกไปทางขวา
ก่อนจะวนมาจบที่เพดานอีกครั้ง ทำหลายๆครั้งกล้ามเนื้อตาจะได้แข็งแรง

        2.กลืนน้ำลาย
        การกลืนน้ำลายบ่อยๆ ช่วยออกกำลังกาย
กล้ามเนื้อบริเวณคอหอย กระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานเป็นปกติ

        3. หวีผม
        ถึงแม้ว่าการหวีผมบ่อยๆ จะไม่ช่วยให้ผมสวยขึ้น แต่จะช่วยนวดเส้น
ประสาทบนสมอง ทำให้ตาสว่าง รากผมแข็งแรงขึ้นเพราะมีเลือดไปเลี้ยงทุกครั้งที่เราหวี

        4.นวดหู
        ที่หูของเรามีเว้นประสาทที่เชื่อมต่อกับไตอยู่
การดึง ดีด บีบ ถูใบหูบ่อยๆ จึงกระตุ้นการทำงานของไตโดยตรง
ช่วยป้องกันอาการเวียนหัว ได้ยินเสียงแปลกปลอม 

        5.ขยับลิ้น
        เวลานั่งว่าง ถ้าได้ดุนเพดายปากไปด้วย 
จะช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย ทำให้ปากสะอาด และขจัดกลิ่นปากไปในตัว

        6.ขมิบก้น
        วิธีก้ท้องผูกที่ง่ายที่สุดก็คือการขมิบก้น ให้ได้วันละ 3 เซ็ต
เซ็ตละ 50-100 ครั้ง ทุกครั้งที่เราขมิบก้น
ลำไส้จะบีบตัว กำจัดของเสียที่ตกค้างไม่ให้อาละวาดทำร้ายร่างกายของเรา

        7.ขบฟัน
        การขบฟันเบาๆบ่อยๆจะช่วยให้ฟันแข็งแรง
และกระตุ้นการผลิตน้ำย่อย คนที่มีปัญหาเรื่องลำไส้ห้ามพลาด

        8.ถูแก้ม
        ใบหน้าเป็นส่วนที่ขาดการออกกำลังกายมากที่สุด
ทั้งๆที่วิธนั้นง่ายแสนง่าย แค่ถูสลู่ไว้ที่มือทั้งสองข้าง จากนั้น
ใช้ฝ่ามือถูหน้าเบาๆ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดมาเลี้ยง
สองแก้มได้มากขึ้น  และหน้าใสๆก็จะตามมาเอง

ขอบคุณ : SPICY


......................................................................................

วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

โบท็อกซ์ยาพิษ...



          ตอนนี้ถ้าสถานเสริมความงามแห่งไหน ในนิวยอร์กไม่มีโบท็อกยาพิษ
ก็เตรียมปิดกิจการไปขายขนมจีบซาลาเปาได้เลยครับ ขอบอกเพราะเขาฮิตกันสนั่นเมืองจริงๆ
เจ้าโบท็อกซ์ยาพิษเป็นโปรตีนที่สกัดมาจากสารพิษในแบคทีเรีย      
          ที่มีชื่อยาวเป็นหางว่าวว่า "Clostridium Botulinum"พูดแบบนี้คุณอาจไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่า
มันก็คือเจ้าแบคทีเรียที่ลงไปแดนซ์กระจายในอาหารเมื่อไหร่ เราก็เกิดอาการอาหารเป็นพิษเมื่อนั้น
          ที่จริงแล้วสารพิษจากแบคทีเรียพวกนี้ ถ้าใครมีอยู่ในร่างกายมากๆ ก็ถึงตายได้เหมือนกันครับ

          แต่คุณหมอในวงการความงามท่านเกิดมองข้ามช็อตนี้ไปว่า เจ้าสารพิษพวกนี้จะทำให้เซลล์ประสาทหยุดทำงาน จากนั้นกล้ามเนื้อก็จะเป็นอัมพาต กระดิ๊กกระเดี้ยไปไหนไม่ได้
ถ้าเอามาฉีดน้อย (ขอย้ำว่าน้อยๆ) ไปที่หน้าคน หนังหน้าก็จะถูกสต๊าฟไว้ไม่ให้หย่อนยาน
เท่านี้ริ้วรอยตีนกา ก็จะเซโรงังกลับบ้านไปโดยปริยาย
          คิดแล้วคุณหมอก็สกัดพิษแบคทีเรียมาใช้กับสาวๆแล้วก็ได้ผลจริงอย่างที่คาด
จนกลายเป็นยาเสริมความงามที่สาวนิวยอร์กเกอร์ทุกนวลนางเรียกร้องหามากที่สุด

          หวังป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลนี้ จะเป็นประโยชน์ เพราะเทคโนโลยีมีทั้งข้อดี และข้อเสียก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไปควรใช้วิจารณญาน อยู่บนพื้นฐานของสติและข้อมูลที่ถูกต้องนะครับ

 ขอขอบคุณ : SPICY


..................................................................................

"โยเกิร์ต" ช่วยลดพุงได้อยู่หมัด!?!



          ผู้หญิงกับความงามเป็นเรื่องคู่กัน หลายคนยอมทุ่มทุนทั้งแรงกายและแรงใจ เพื่อรังสรรค์ความงามทั้งใบหน้าและรูปร่าง แต่ปัญหาหนึ่งที่กวนใจสาวๆ มาทุกยุคทุกสมัย จนกระทั่งทุกวันนี้ก็คือ “ปัญหาการมีหน้าท้อง” ด้วยเหตุนี้บริษัท ดานอน แดรี่ ประเทศไทย จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านโยเกิร์ตระดับโลก ภายใต้ แบรนด์แอคทีเวีย จึงได้จัดงาน เสวนา “ไขความลับปัญหาหน้าท้องเรื่องของสาวๆ” ภายใต้บรรยากาศแบบชิลๆ ตามคอนเซปต์ซีเครต การ์เด้น
          ผศ. รศ. เรวดี จงสุวัฒน์ หัวหน้าภาควิชาโภชนวิทยา สาธารณสุขศาสาตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การที่ผู้หญิงมีหน้าท้องกันส่วนใหญ่นั้น ต้องมาจำแนกกันก่อนว่า แต่ละคนมีสาเหตุจากอะไร หากเกิดจากความอ้วน หน้าท้องจะยื่นตั้งแต่เหนือสะดือลงมาจนถึงท้องน้อย และส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็จะใหญ่ไปด้วย หน้าท้องที่เกิดจากความอ้วน จะลดยากหน่อย โดยต้องอาศัยเวลาในปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตพร้อมกันหลายอย่างไม่ว่าอาหารการกิน การออกกำลังกาย 
          “สาเหตุที่สองของปัญหาหน้าท้อง คือ เกิดจากอาการท้องอืด ซึ่งเป็นผลมาจากระบบขับถ่ายไม่เป็นปกติ ลักษณะคือเฉพาะพุงส่วนล่าง คือตรงท้องน้อย จะยื่นออกมา ใส่ชุดอะไรก็ไม่สวย และมักจะมีความรู้สึกอืดแน่นท้องร่วมด้วย เรียกได้ว่าภายนอกก็ไม่สวย ภายในก็ไม่สบาย พาลให้เสียความมั่นใจ และหงุดหงิดอย่างมากค่ะ”

          “หากความรู้สึกท้องอืดเกิดจากระบบขับถ่ายไม่เป็นปกติ สบายใจได้อย่างหนึ่งว่าแก้ไขได้ไม่ยาก ล่าสุดมีงานวิจัยระดับโลกสนับสนุนว่าโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์แอคทิเรกูราลิส ซึ่งเป็นโพรไบโอติกลิขสิทธิ์เฉพาะของดานอนที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ ช่วยปรับสมดุลทั้ง “ระบบขับถ่าย” ให้ดีขึ้น โดยเมื่อรับประทานแล้วจะรู้สึกได้ถึงความสบายครบ 4 ประการจากการที่ระบบขับถ่ายดีขึ้น คือ 1. ไม่รู้สึกปวดแน่นท้อง 2. ไม่มีลมในท้อง 3. ท้องไม่อืดบวมและไม่รู้สึกอึดอัดท้อง 4. ขับถ่ายปกติ วันละ 1-2 ครั้ง
          นอกจากนี้งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และคลินิกยังระบุว่า โยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์แอคทิเรกูราลิส ช่วยทำให้ เส้นรอบเอวที่เพิ่มขึ้นจากอาการท้องอืดลดลงได้ถึงร้อยละ 77 หากรับประทานเป็นประจำ 
          “ขอยกตัวอย่างตัวอาจารย์เอง อาจารย์มีรอบเอวปกติอยู่ที่ 28 นิ้ว หรือ 70 ซม แต่เมื่อท้องอืด ส่วนท้องน้อยจะขยายออกอีกประมาณ 3 ซม เป็น แต่หากรับประทานโยเกิร์ตสุขภาพที่มีจุลินทรีย์แอคทิเรกูราลิสเป็นประจำ ส่วนที่เพิ่มขึ้นจากอาการท้องอืดจะลดลง 77% นั่นหมายถึงแทนที่จะเพิ่มรอบเอวจะเพิ่มขึ้นมา 3 ซม มันจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.69 ซม เท่านั้น กลายเป็นว่าเอวของอาจารย์จะอยู่ที่ 70.69 ซม. แทนที่จะเป็น 73 ซม. จะเห็นว่าส่วนต่างอยู่ที่ 2.31 ซม. เรียกได้ว่าลดไปเลยประมาณ 1 นิ้ว หรือลดไซส์กระโปรงได้เลยค่ะ” ผศ.ดร. เรวดีกล่าวเสริม
นอกจากดูแลตัวเองเรื่องการกินแล้ว เพื่อให้ระบบขับถ่ายดีแล้ว อาจารย์ยังได้แนะนำท่าโยคะง่ายๆ เพื่อช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายอีกด้วย ได้แก่ท่าวักราสนะ(ท่าบิดสันหลัง-Twisting Pose) ท่าธนูราสนะ (ท่าธนู-Bow pose) ท่าโยคะมุทรา (สัญลักษณ์โยคะแบบประยุกต์) และท่าปริวิตตะ ตรีโกณาสนะ (ท่าสามเหลี่ยมกลับด้าน) ซึ่งแต่ละท่าสามารถช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี
          สาวๆ รู้แบบนี้แล้วลงมือจัดการกับปัญหาหน้าท้องกันได้เลย


.........................................................................................

14 ข้อดี จากการอกหัก...



ประหยัดค่าโทรศัพท์ 
ไม่ต้องรีบกลับบ้าน 
ไม่ต้องห่วงใคร 
ไม่ต้องคิดถึงใคร 
ไม่ต้องรายงานตัว  
ฟังเพลงเศร้า เพร๊าะ…เพราะ  
ไม่เปลืองหัวใจ
อาจจะผอม หุ่นดีขึ้น เนื่องจากกินอะไรไม่ค่อยลง

เหลือเวลาที่จะทําอะไรๆถมเถไป 
ไม่ต้องคอยมานั่งนึกว่าวันนี้เราทำ หรือพูดอะไรผิดไป เพราะเวลางอน อีกฝ่ายชอบพูดว่า " น่าจะรู้ตัวนี่ว่าทำอะไรลงไป " 
สามารถไปหาแฟนใหม่ได้ รับรองต้องดีกว่าเก่า โดยไม่ต้องเกรงใจใคร 
ไม่ต้องคอยลุ้นเวลา check mail ว่าจะมีเมล์เค้ารึเปล่า
ได้เป็นตัวเองอีกครั้ง ทำทุกอย่างที่รู้สึกพอใจจริงๆ 
ได้เปิดตัวคนใหม่สักที หลังจากปกปิดมานาน

...................................................................................

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ไอโฟนถอย! เสี่ยวหมี่ เริ่ดได้...ในราคาเบา ๆ



          แม้ว่าคนทั่วโลกจะพากันต่อแถวยาวเหยียด เพื่อจับจองสมาร์ทโฟนขั้นเทพอย่าง "ไอโฟน" รุ่นต่าง ๆ ของค่ายแอปเปิ้ล แต่ด้วยราคาที่่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ "ไอโฟน" ก็เลยตีตลาดในประเทศจีนได้ไม่มากนัก ที่สำคัญยังมีแบรนด์ท้องถิ่นก้าวขึ้นมากวาดลูกค้าชาวจีนจากแอปเปิ้ลไปได้เพียบ นั่นก็คือแบรนด์ "เสี่ยวหมี่" นั่นเอง
          เสี่ยวหมี่ (Xiaomi) เป็นแบรนด์โทรศัพท์มือถือรายใหม่ที่มาแรงสุด ๆ ในประเทศจีนขณะนี้ จากความคิดของ หลี่ จุ้น ซีอีโอชาวจีนวัย 43 ปี ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น สตีฟ จ็อบส์ แห่งเมืองจีน โดยค่ายนี้จะเน้นผลิตสมาร์ทโฟนที่สเปกเทพ ฟังก์ชั่นเพียบ ลูกเล่นเยอะ แต่ราคาสบายกระเป๋าถูกกว่าไอโฟนเกือบครึ่ง เรียกได้ว่าถูกใจผู้ซื้อเป็นที่สุด 

          อย่าง "Xiaomi MI-1" สมาร์ทโฟนรุ่นแรก สามารถขายได้ถึง 150,000 เครื่อง ภายใน 13 นาทีแรกของการวางขาย และเพียงแค่ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เสี่ยวหมี่ สามารถขายสมาร์ทโฟนไปได้แล้วกว่า 3 ล้านเครื่อง คิดเป็นตัวเงินรายได้ก็เฉียด ๆ 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 32,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

          ทั้งนี้ ชาวจีนเขาให้เหตุผลที่ยอมควักเงินซื้อ เสี่ยวหมี่ ว่า เพราะฟังก์ชั่นการใช้งานครบ แถมยังราคาสมเหตุสมผล ที่สำคัญยังเป็นแบรนด์ที่คนจีนผลิตเองด้วย ส่วน "ไอโฟน" ราคาแพง มีดีแค่แบรนด์เท่านั้น อีกทั้งยังเป็นโทรศัพท์ที่ผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา จึงไม่อยากสนับสนุน แม้ว่าจะมีคนจีนบางกลุ่มเลือก "ไอโฟน" อยู่ก็ตาม แต่ก็เชื่อกันว่า อีกไม่นานก็คงจะมีแต่กลุ่มคนรวยเท่านั้นที่ใช้ "ไอโฟน" เพราะคนจีนกลุ่มอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีฐานะมากก็คงเลือกใช้มือถือที่มีราคาถูกกว่า อย่าง "เสี่ยวหมี่" ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับจองมาก

          และเพื่อตีตลาดให้ได้มากขึ้น ล่าสุด "เสี่ยวหมี่" ก็ได้เปิดตัว "เสี่ยวหมี่ เอ็มไอทู" (Xiaomi MI-2) สมาร์ทโฟนสเปกแรง ด้วยชิปเซ็ต Quad-Core Snapdragon S4 Pro APQ8064 1.5 Ghz 28 นาโนเมตร หน่วยความจำภายใน 16GB, Ram 2GB, กล้องถ่ายภาพหน้า 2 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล, หน้าจอ 4.3 นิ้ว ความละเอียด 1280x720, บลูทูธ 4.0 และมาพร้อมกับ Android 4.1 แถมยังสามารถสั่งงานด้วยเสียงคล้ายกับโปรแกรมสิริของแอปเปิ้ล

          สเปกไม่ธรรมดา และรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสวยงามไม่แพ้ "ไอโฟน" แบบนี้ เชื่อไหมว่า เขาวางขายกันในราคาเพียง 1,999 หยวน หรือประมาณ 10,000 บาทเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้ว คนที่มีรายได้ไม่มาก หรือนักเรียนนักศึกษาในจีนก็พอสามารถหาซื้อมาใช้กันได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ "เสี่ยวหมี่" กำลังเข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาดจีนได้อย่างรวดเร็ว
          สงสัยว่า "ไอโฟน" จะเจอคู่แข่งสำคัญเสียแล้ว ร้อน ๆ หนาว ๆ แน่นอนงานนี้...

ขอบคุณ กระปุกดอทคอม

..................................................................................

20 ร้านอร่อย...[Part 1]


          
          ใกล้เที่ยงแล้วทานอะไรกันดี ถ้านึกไม่ออก ผมมีตัวช่วยครับรัปประกันความอร่อย...

1. โจ๊กสามย่าน : ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
ถามใครๆ ก็บอกว่า ทีเด็ดอยู่ที่หมูหมัก ก้อนกลมกล่อม ประกอบกับเปิดขายเฉพาะ ช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน และช่วงเย็น ประมาณหลังเลิกเรียนพอดี เลยกลายเป็น เสบียงให้นิสิตอิ่มท้องจนเรียนจบมาแล้วนักต่อนัก

หมายเหตุ – เนื่องจากตลาดสามย่านถูกรื้อย้ายไปแล้วและในไม่ช้านี้ร้านโจ๊กสามย่าน ซอยจุฬา 11 ก็คงต้องย้ายไปหาที่ไหม่

2. ข้าวราดแกงวัด เล่งเน่ยยี่ :
ในซอยมังกร ข้างวัดเล่งเน่ยยี่ ถนนเจริญกรุง ขึ้นชื่อในแกงประเภทแกงกะทิ โดยเฉพาะแกงกระหรี่เนื้อ.. มาขายตั้งแต่ ประมาณ 16.00น. เป็นต้นไป

3. โจ๊กหม้อดิน ซอยมหาดไทย :
ใช้หม้อดินมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ เพราะหม้อดิน เป็นภาชนะธรรมชาติ ปลอดสารพิษ เวลาโดนความร้อน แถมเก็บ ความร้อนไว้ได้นาน เนื้อหมูใช้หมูที่ ไม่มีมัน ส่วนข้าวก็ใช้ข้าวหอมมะลิ ปัจจุบันเปิดขาย แฟรนไชส์ แบ่งปันกำไร และความอร่อย กันให้ทั่วๆ สนใจติดต่อที่ โทร 934-3995

4. ข้าวขาหมูสีลม :
อยู่ในซอยตรงข้าง โรงพยาบางเลิดสิน คนแถวนั้นรู้จักในนามขาหมูโกโก้ ใครอยากมาลอง ต้องรีบมาช่วงเที่ยง หลังบ่ายโมงไม่รับประกัน เพราะจะขายหมดเร็วมาก

5. ข้าวมันไก่ตอน ประตูน้ำ :
นอกจากข้าวและไก่จะมีรสดีได้มาตรฐานแล้ว ที่ใครๆ ออกปากเห็นจะเป็นน้ำซุปร้อนๆ หอม และหวานน้ำต้ม กระดูกไก่

6. ข้าวหมูแดงสี มรกต :
ไม่ต้องสงสัยว่าข้าวหมูแดงทำไมเป็นสีเขียว..จริงๆ แล้วคือนามสกุลเจ้าของร้าน มีทีเด็ดตรงที่ทุกอย่า งล้วนผ่านกรรมวิธีการย่าง ย่างมาตลอดสี่สิบกว่าปี ร้านอยู่ในตรอกโรงหมู ตรงข้ามวัดไตรมิตร ขายเวลา 11.30น.-22.00น

7. ข้าวขาหมูเหม่ง จ๋าย :
จากแยกเหม่งจ๋ายมุ่งหน้า มาทางที่จะทะลุ ถนนเลียบทางด่วน จะเห็นร้านอาหารหลายร้านอยู่ด้านขวามือ ข้าวขาหมูร้านที่ว่าเป็นที่ชื่นชอบของคนรัก เครื่องในและหมูกรอบ

8. ข้าวผัดปู :
อาหารจีนชนิดอื่นๆ ทั้งกระเพาะปลา รังนก กระทั่งหูฉลาม ทั้งหมดราคาย่อมเยาว์ และรสชาติสมเป็น อาหารจีนแท้ๆ โดยไม่ต้องขึ้นเหลา มีผัดหมี่หยังโจว กับข้าวผัดปูเป็นเมนูหลัก ร้านเปิดขายประมาณ 18.00 น. เป็นต้นไป ที่ห้าแยก ณ ระนอง ตรงข้ามสโมสรการท่าเรือ

9. ก๋วยเตี๋ยวหลอด เยาวราช :
ร้านแรกเป็นรถเข็น อยู่ต้นถนนเยาวราชฝั่งขวา ก่อนแยกเข้าถนนผดุงด้าว สังเกตได้จากปริมาณคลื่นคน ที่อออยู่หน้าร้าน ลูกค้าบอกว่ามีดีที่เครื่องเยอะ และรสชาติเข้มข้น หรือถ้าอยากชิมก๋วยเตี๋ยวหลอด แบบที่ยังคงความเป็น หลอดไว้ ก็ต้องเดินเลยมาอีกนิด อยู่ฝั่งซ้ายมือ ปากซอยที่มีร้าน 7-11 อยู่ด้านใน เด็ด..เช่นกัน

10. ก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นน้ำใสศรีย่าน :
ตู้ใส่เส้นและลูกชิ้นค่อนข้างเก่า เนื่องจากทำมาหลายสิบปี แต่ก็ยังคงความอร่อยของลูกชิ้นไว้เช่นเดิม อยู่บริเวณตลาดศรีย่าน

11. ก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นปลาเด้งได้ :
เป็นร้านพี่น้องอยู่ใกล้ๆ กัน บริเวณท่าน้ำราชวงศ์ กระซิบว่าเจ้าของร้านไม่ค่อยอยากให้ลง แต่เพราะความอร่อยของลูกชิ้น และเส้นที่เหนียวนุ่ม เราจึงจำเป็นต้องแนะนำ

12. หมี่กรอบจีนหลี สมัย ร.5 :
เรื่องมีอยู่ว่า คุณทวดของเจ้าของร้านอพยพ มาจากเมืองจีนมาทำหมี่กรอบ ขายอยู่ บริเวณท่าน้ำตลาดพลู ซึ่งเป็นย่านที่มีขุนนางอาศัยอยู่เยอะ วันหนึ่งพระพุทธเจ้าหลวง ปลอมพระองค์เสด็จฯ ตรวจราชการ แล้วทรงได้กลิ่นหมี่ ใกล้สุก เมื่อเสด็จฯ ครั้งต่อๆ มาจึงแวะเสวย และมีพระราชดำรัส ให้ไปผัดในวัง ปัจจุบันหมี่กรอบจีนหลี ยังตั้งอยู่ที่เดิม ขายสิบโมงเช้าถึงสี่ทุ่ม

13. ก๋วยเตี๋ยว สุโขทัย สมทรงโภชนา :
เจ้าของสูตรซึ่งเป็นชาวสวรรคโลกแท้ๆ เพิ่มเสียชีวิตได้ไม่นาน พี่วรรณลูกสาว จึงรับหน้าที่ปรุงรสก๋วยเตี๋ยว ให้ได้ครบรส เดิมตั้งอยู่ใน ซอยวัดสังเวช ถนนท่าพระอาทิตย์ เดี๋ยวนี้ขยับขยายขึ้นไปอยู่ บนศูนย์อาหารเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว

14. ก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นปลาโบราณ จันทบุรี :
ร้านตั้งอยู่เลยวัดตรีทศเทพ เลี้ยวซ้ายไปเล็กน้อย เป็นลูกชิ้นปลาทำเองจากเจ้าของร้าน กิตติศัพท์ เรื่องรสชาติมีมาก พอๆ กับการไม่ง้อ ลูกค้า คนเรื่องมาก ต้องระวัง จะถูกเชิญให้ไปรับประทานร้านอื่น

15. ก๋วยเตี๋ยว ไหหลำ :
แปลกกว่าก๋วยเตี๋ยวธรรมดาตรงเส้นที่คล้ายเส้นเกี้ยมอี๋ แต่ยาวกว่า ใส่ผักกาดดองตามสูตรไหหลำ เนื้อหมูและวัวเลือกมาอย่างดี อยู่ตรงสะพานขาว ถนนลูก หลวง ใกล้โรงหนังแอมบาสเดอร์เก่า

16. เย็นตาโฟวัดแขก ถนนสีลม :
ใครเคยไปบริเวณวัดแขก จะเห็นว่าทุกร้านล้วนขึ้นป้ายว่าเย็นตาโฟวัดแขกเจ้าเก่า แนะนำได้เพียงว่า ร้านดั้งเดิมคือร้านที่อยู่ใกล้กับวัดแขกมากที่ สุด แต่เรื่องรสชาติต้องลองชิมดูเองว่าร้านไหนจะถูกปากใครมากกว่า จานเด่นจานเด็ด

17. ไก่ย่างแม่วันเพ็ญ :
ไก่ย่าง และไก่ย่างทอดร้อนๆ ทอดจนกรอบ แล้วโรยเครื่องเทศให้หอม เข้าได้ทั้งจากซอยอาภาภิรมย์ ข้างกรมการค้าส่งออก ถนนรัชโยธิน หรือจากซอย โชคชัย 4 ถนนลาดพร้าวก็ได้ ผู้ไม่คุ้นทางสามารถโทรศัพท์ สอบถามได้ที่ 0 1818 2608

18. กระเพาะปลาน้ำแดง :
ใช้เวลาเตรียมแต่เช้ามืดเพื่อเปิดขายตอนประมาณสี่โมงเย็น ถึงสี่ทุ่ม เพราะต้องเคี่ยวกระดูกไก่นาน 4 ชั่วโมง ผสมกับเครื่องปรุงอย่างดี ทำให้ได้น้ำ หอมหวาน แต่เดิมขายในรถ เดี๋ยวนี้กลายเป็นแผงอยู่หน้าที่จอดรถ ตลาดสวนหลวง ใกล้สนามกีฬาแห่งชาติ

19. อาหารไทยร้านครัวอรรถรส ซอยเสือใหญ่อุทิศ :
มีทั้งก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ส้มตำผลไม้ ขนมจีนน้ำเงี้ยว ฯลฯ รวมไว้ในร้านเดียวกัน เจ้าของรวบรวมอาหารอร่อย จากที่ต่างๆ มา พัฒนารสชาติ ปรับส่วนที่เข้มข้นเกินไป ให้อร่อยลงตัวไปอีกแบบ หาร้านไม่เจอ โทรศัพท์ถามได้ที่ 0 2541 7043

20. ส้มตำจตุจักร :
ฝั่งตรงข้ามตลาด อ.ต.ก. ผ่านซุ้มหนังสือเก่าเลี้ยวขวา จะเจอร้านส้มตำฝุ่นตลบ ซึ่งมีอาหารอีกหลายอย่าง ให้เลือก อาทิ ไก่ทอด หมูยอ ก๋วยจั๊บญวน ที่อร่อย อาจเป็นเพราะรอนานจนหิวก็เป็นได้

          ใกล้แถวไหนก็ลองไป ทานดูนะครับ แต่รับรองอร่อยเด็ดขาดสมคำล่ำลือ...
........................................................................................