tororichclub

tororichclub

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

คนไทยเตรียมตัวรับทีวีดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบ


           และ แล้วคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.)
ก็มีมตินำเงินค่าประมูลตั้งต้นช่องรายการโทรทัศน์ระบบดิจิทัลมาจัดสรรเป็น คูปองให้คนไทย 22 ล้านครัวเรือน
          คูปองนี้จะใช้เป็นส่วนลดในการซื้อกล่องแปลงสัญญาณเพื่อรับทีวีดิจิทัล หรือซื้อเครื่องรับโทรทัศน์ระบบดิจิทัล มติดังกล่าวทำให้กระแสทีวีดิจิทัลบูมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเพราะทำให้ "ทีวีดิจิทัล" มีโอกาสแจ้งเกิด
          ก่อนหน้านี้คนในแวดวงจะมองว่า "ทีวีดิจิทัล" เกิดยาก เพราะตอนนี้คนไทยใช้จานรับดาวเทียมกว่าครึ่งของประเทศแล้วยอดขายจานรับดาวเทียมในเดือนธันวาคม เท่าที่ตรวจสอบน่าจะมากกว่า 400,000 จานและในปีนี้สงครามราคาของจานรับดาวเทียมจะแรงขึ้น
อัตราการเติบโตของจานรับดาวเทียมระดับนี้ ทำให้คนตั้งคำถามว่า "ทีวีดิจิทัล" จะเกิดได้อย่างไรเพราะไม่มีเหตุผลที่ "ผู้บริโภค" จะยอมควักกระเป๋าซื้อกล่องแปลงสัญญาณ
แต่เมื่อ กสท.ประกาศแจกคูปอง ก็มีความเป็นไปได้ที่คนดูจะยอมเปลี่ยน  "กล่อง" ระบบทีวีดิจิทัลนั้นไม่ว่าเราจะใช้เครื่องเก่า และมีกล่องแปลงสัญญาณ หรือจะซื้อทีวีดิจิทัลเครื่องใหม่ก็ตามเรายังต้องใช้เสาอากาศรับสัญญาณเหมือนเดิม คำถามก็คือ ถ้าเราเปลี่ยนไปติดจานรับดาวเทียมแล้วเราจะต้องซื้อเสาอากาศใหม่อีกหรือ อย่าลืมนะครับ คนไทยที่ติดจานรับดาวเทียมตอนนี้เกินครึ่งประเทศแล้ว การลงทุนลงแรงซื้อเสาอากาศมาติดตั้งใหม่ ต้องมีแรงจูงใจเรื่อง "ความแตกต่าง" มากทีเดียว
          ประเด็นก็คือ เมื่อทีวีดิจิทัลทุกช่องก็ต้องแพร่ภาพผ่านระบบดาวเทียมด้วยคนที่ติดจานรับดาวเทียมก็สามารถ ดูทีวีดิจิทัลได้เหมือนกันเปรียบเทียบง่าย ๆ ก็เหมือนกับช่อง 3-5-7-9-11 และไทยพีบีเอสในปัจจุบันเสาอากาศก็ดูได้ จานรับดาวเทียมก็ดูได้ คูปองที่แจกไปจึงอาจมีคนใช้ไม่มากนักเมื่อเป็นเช่นนี้ การลงทุนในทีวีดิจิทัลจึงไม่น่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับการลงทุนทีวีดาวเทียมเพราะทีวีดาวเทียม เสียแค่ค่าเช่าสัญญาณดาวเทียม ถ้าใช้ทั้ง 2 ระบบ คือ ซีแบนด์ และเคยูแบนด์ ก็ไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อเดือนแต่ทีวีดิจิทัล เสียทั้งค่าสัมปทาน และค่าเช่าโครงข่าย สมมติว่าค่าสัมปทานประมาณ 500 ล้านบาทก็ตกปีละ 33 ล้านบาท หรือเดือนละ 2.7 ล้านบาทแต่ค่าเช่าโครงข่ายแพร่ภาพ ประมาณเดือนละ 10 ล้านบาท รวม 17.5 ล้านบาทต่อเดือน 
แพงกว่าทีวีดาวเทียมประมาณ 6 เท่าทีวีดิจิทัลจึงมีต้นทุนสูงกว่า แต่มีข้อดีที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายซึ่งถ้าคิดตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นแล้วไม่คุ้มสมมติว่ามีคนดูผ่านจานรับดาวเทียม 70% ของประชากรทั้งหมด ทีวีดิจิทัลได้เปรียบทีวีดาวเทียมตรงที่มีคนดูทั้งที่ติดจานรับดาวเทียมและเสาอากาศ คนดูเพิ่มขึ้น 30% แต่ลงทุนมากกว่าทีวีดาวเทียมถึง 600%
แม้จะคำนวณแบบบัญญัติไตรยางค์แล้วไม่คุ้ม แต่เชื่อไหมครับว่าคนจะประมูลทีวีดิจิทัลเยอะมากเพราะสัญชาตญาณ "เถ้าแก่" บอกว่า "คุ้ม"
            เหตุผลหนึ่งก็คือ ระหว่างการอธิบายให้เอเยนซี่โฆษณาเชื่อว่าทีวีดาวเทียมของเรามีคนดูรับสัญญาณภาพของเราได้ถึง 70% ของทั้งประเทศ กับการบอกว่าทุกบ้านดูได้หมด
แบบหลังขายง่ายกว่าครับ และราคาก็ต่างกัน "ฟ้า" กับ "เหว" เหมือนฟรีทีวีกับทีวีดาวเทียมในวันนี้
....................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น