ใส่ใจ'ไวรัสตับอักเสบ'...

          หลายคนรู้จัก "โรคไวรัสตับอักเสบ" แต่เชื่อว่ามีไม่กี่คนที่เข้าใจที่มาที่ไปอย่างแท้จริงพร้อมอาการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อได้เชื้อ เหตุนี้ พล.ต.นพ.อนุชิต จูฑะพุทธิ เลขาธิการมูลนิธิโรคตับ จึงไขข้อข้องใจเกี่ยวกับไวรัสเหล่านี้อย่างละเอียดยิบว่า การติดเชื้อไวรัสมีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่ เอ บี ซี ดี และ อี แต่ไวรัสที่พบมากที่สุดและน่าเป็นห่วงคือ ไวรัสตับอักเสบชนิดซี เพราะสามารถเป็นเรื้อรังได้บ่อย ซึ่งไม่ติดต่อทางอาหาร และผู้ป่วยมักไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ ที่ร้ายกว่านั้นคือ ไวรัสตับอักเสบซี เป็นอีกสาเหตุสำคัญของมะเร็งตับ อาการเบื้องต้นของผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบซีจะไม่แสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน บางรายพบว่า มีไข้ต่ำ อ่อนเพลีย เมื่อยล้า คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ฯลฯ จึงทำให้ผู้ติดเชื้อคิดไม่ถึงว่าเป็นอาการของโรคไวรัสตับอักเสบซี กว่าครึ่งของผู้ติดเชื้อมักเป็นเรื้อรัง กว่าจะรู้ตัวก็มีอาการรุนแรงถึงขึ้นเป็นโรคตับแข็ง และลุกลามไปสู่มะเร็งตับในที่สุด
          นอกจากนี้ พล.ต.นพ.อนุชิต ยังเผยถึงสาเหตุของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีว่า ส่วนใหญ่ผ่านทางเลือด จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงเหล่านี้ ควรจะได้รับการตรวจเลือด เพื่อวางแผนการรักษาได้ทันท่วงที การตรวจหาเชื้อทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เจาะเลือดเพื่อตรวจหาภูมิไวรัสตับอักเสบซี หากผลออกมาเป็นบวก แพทย์จะให้ตรวจยืนยันอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ามีเชื้อไวรัสจริงหรือไม่ ถ้าผลการตรวจครั้งนี้ไม่พบเชื้อ ก็ต้องติดตามผลอย่างต่อเนื่อง โดยการรักษาต้องได้รับการฉีดสัปดาห์ละครั้งร่วมกับยารับประทาน นาน 24-48 สัปดาห์ ซึ่งยาในกลุ่มนี้จะให้ตามน้ำหนักผู้ป่วยแต่ละคน ปัจจุบันไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบซี แต่ก็มียารักษาให้หายขาดได้
          ในการเผยข้อมูลครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสาวคนเมืองอย่าง  "เล็ก" กรกนก ยงสกุล ที่สนใจมาเช็กสุขภาพและขอข้อมูลจากคุณหมอ โดยเจ้าตัวบอกว่า ในครอบครัวมีคนที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี คุณหมอก็จะแนะนำให้รับประทานวิตามินบำรุง ทำตัวให้แข็งแรง ไม่ดื่มสุรา ส่วนตัวดูแลสุขภาพอยู่แล้ว ก็ระวังไม่ให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มเสี่ยง โดยจะนำข้อมูลที่ได้รับวันนี้ ไปเตือนเขาด้วยความห่วงใย เพราะโรคไวรัสตับอักเสบซี ส่วนใหญ่กว่าจะรู้ตัวก็ลุกลาม รักษาไม่ทันแล้ว ฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็อยากให้มาตรวจคัดกรองเพื่อหาแนวทางป้องกัน ส่วนผู้ที่ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่างๆ ที่จะนำไปสู่โรคร้าย
          ทางด้านสาว "เหลียน" โสรัส อมาตยกุล บอกว่า ไม่คิดว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่ก็ต้องระวัง เพราะตัวเองเป็นคนชอบเข้าร้านทำเล็บเสริมสวยตามสไตล์ผู้หญิง ยิ่งมารู้ว่าโรคไวรัสตับอักเสบซีติดจากเลือด ยิ่งทำให้ต้องระวังมากขึ้น โดยส่วนตัวจะมีอุปกรณ์ในการทำเล็บของตัวเอง เพราะเราไม่รู้ว่าอุปกรณ์ของร้านผ่านการฆ่าเชื้อมามากน้อยแค่ไหน อะไรที่ป้องกันได้ก็ควรป้องกันไว้ก่อน จะทำให้อุ่นใจมากขึ้น ส่วนในกลุ่มเพื่อนก็จะเอาความรู้ที่ได้ไปบอกต่อด้วย

Thank : คมชัดลึก

.............................................................................................