tororichclub

tororichclub

วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

กินอาหารระบายอารมณ์


1. ร่างกายที่มีผลต่ออารมณ์ อาหาร, กินอาหารระบายอารมณ์
          ที่มาจาก 2 แหล่งของผลสะท้อนความรู้สึกคืออาหารและสารเคมีในสมอง และปัจจัยที่ควบคุมได้ง่ายคือ อาหาร
          ด้วยการงดกินอาหารคาร์โบไฮเดรต ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง อย่างไอศกรีม ข้าวเหนียว มันฝรั่งบด อาหารประเภททอด ขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ น้ำอัดลม กระตุ้นให้มีการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ที่นำกลูโคสเข้าสู่เซลล์ต่าง ๆ เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงาน หลังจากกินไปได้ 2-4 ชั่วโมง จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือด ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรง อารมณ์เซื่องซึม ตาหนัก ง่วงนอน

2. กินอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ อาหาร, กินอาหารระบายอารมณ์
          เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ผักและผลไม้ที่มีเส้นใยมาก และมีรสไม่หวาน เป็นต้น เพราะร่างกายจะค่อย ๆ ย่อยและดูดซึมช้า ๆ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ สม่ำเสมอ และหลังกินอาหารได้ 4-6 ชั่วโมง ร่างกายจะหลั่งสารฮอร์โมนบางชนิด เพื่อสลายไกลโคเจน ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่สะสมอยู่ในร่างกาย และเพิ่มการสร้างกลูโคสจากแหล่งอาหารอื่น เช่น ไขมัน

3. เลือกกินเฉพาะแป้งที่ไม่หวาน อาหาร, กินอาหารระบายอารมณ์
          ไม่ได้เหมารวมทุกหมวด เพราะขนมปังและข้าวทุกชนิด คือแหล่งคาร์โบไฮเดรต ซึ่งมีส่วนในการกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งช่วยให้เกิดความสงบ งานวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชู เสตต์ สหรัฐอเมริกา แนะนำให้กินขนมปังเพื่อต่อต้านอาการซึมเศร้า

4. ปรับเปลี่ยนเพื่ออารมณ์ดี อาหาร, กินอาหารระบายอารมณ์
          การปรับเปลี่ยนประเภทของอาหารเพียงเล็กน้อย ก็สามารถส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ควรกินอาหารให้ครบมื้อ แต่ถ้าไม่มีเวลากินอาหารเป็นมื้อแบบกิจจะลักษณะ ควรเลือกของว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ขนมปังโฮลวีทสักแผ่น หรือขนมปังกรอบธัญพืชสัก 2-3 แผ่น อย่าปล่อยให้ท้องว่างเด็ดขาด หรือว่าจะแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ แต่กินบ่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดตก

5. กินปลาแซลมอนและแมคคาเรล อาหาร, กินอาหารระบายอารมณ์
          ปลา 2 ประเภทนี้ มีโอเมก้า 3 ซึ่งยืนยันด้วยผลวิจัยว่าส่งผลต่ออารมณ์ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง   ที่ดีไปกว่านั้นแซลมอนยังเต็มไปด้วยเซเลเนียม ที่เป็นสารสำคัญในการต่อต้านอนุมูลอิสระด้วย

6. ปรุงอาหารด้วยน้ำมันคาโนลาออยล์ (Canola Oil) อาหาร, กินอาหารระบายอารมณ์
          จากดอกคาโนลา ซึ่งกำลังได้รับความนิยมแทนน้ำมันพืชทั่วไป เนื่องจากเต็มไปด้วยวิตามินอี ซึ่งมีผลต่อระดับอารมณ์ แต่ควรกินได้ไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม โดยใช้ทอดปลาแซลมอน หรือทำอาหารสุขภาพ

7. กินผักโขม ถั่วสด และถั่ว Chickpeas อาหาร, กินอาหารระบายอารมณ์
          ที่มีแต่โปรตีนไขมันต่ำ อยู่สูง ในผักใบสีเขียวเข้มมีโฟเลตสูง มีส่วนสำคัญในการสร้างเซโรโทนิน ซึ่งช่วยให้อารมณ์อยู่ในนระดับปกติ นอกจากนั้นการกินถั่วยังได้รับวิตามินซีและไฟเบอร์ด้วย การลองผสมถั่ว หรือเพิ่มผักใบเขียวลงในทูน่าสลัด นับเป็นไอเดียเริ่ดที่น่าทำมาก

8. กินพริกรสเผ็ด อาหาร, กินอาหารระบายอารมณ์
           ในพริกมี “สารแคปไซซิน” ส่งสัญญาณหลอกให้สมองหลั่งสารแห่งความสุข เอนโดรฟิน แต่ควรระวังหากกินมากเกินไปอาจทำท้องไส้ปั่นป่วน

9. กินปวยเล้ง อาหาร, กินอาหารระบายอารมณ์
            ผักอารมณ์ดีที่อุดมด้วย “กรดโฟลิก” (Folic acid) ที่ช่วยสร้างเซลล์ใหม่และช่วยให้เซลล์ใหม่แข็งแรงสมบูรณ์ การขาดนำไปสู่การลดการหลั่งของฮอร์โมนเซโรโทนินโดยตรง ซึ่งก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้า การกินปวยเล้งสม่ำเสมอยังทำให้หลับง่าย หลับสนิทดีด้วย

10. กินกล้วยหอม อาหาร, กินอาหารระบายอารมณ์
          กระตุ้นการสร้างสาร “ซีโรโทนิน” และอุดมไปด้วย “ทริปโทโฟน” ช่วยลดอารมณ์ซึมเศร้า คลายเครียด และไม่อ้วน

11. กินถั่วเหลือง อาหาร, กินอาหารระบายอารมณ์
            ที่อุดมด้วยสารซีโรโทนิน เพิ่มความตื่นตัว กระฉับกระเฉง และ “โดไทโรซิน” เพิ่มสมาธิในการทำกิจกรรมต่างๆ

12. กินเชอร์รี่เป็นของหวาน อาหาร, กินอาหารระบายอารมณ์
           แพทย์ตะวันตก เรียกเชอร์รี่ ว่าเป็น “แอสไพรินธรรมชาติ” เนื่องจากผลไม้ชนิดนี้มีสารที่ชื่อว่า “แอนโธไซยานิน” Anthocyanin) ซึ่งเป็นเม็ดสีในเชอร์รี่ ทำให้เชอร์รี่มีสีสันสวยสดใส และสรรพคุณสำคัญ คือ ทำให้คนกินมีความสุข งานวิจัยมหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ชี้ว่าการกินเชอร์รี่ 20 ผล ช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ดีกว่าการกินยา

13. กินและปรุงอาหารด้วยกระเทียม อาหาร, กินอาหารระบายอารมณ์
          ที่อุดมด้วยสารเซเลเนียม (Selenium) สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น นักวิจัยเยอรมันแนะว่า การกินกระเทียมวันละ 2 กลีบ น่าจะเหมาะสม นอกจากนี้ กระเทียมยังมีสรรพคุณช่วยลดระดับไขมันในเลือด และรักษาโรคความดันโลหิตสูง

Thank : http://blog.th.88db.com/?p=15864
..................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น