นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า การต่อเล็บปลอมทั้งที่ทำจากสารเคมีและเล็บปลอมที่ทำจากพลาสติกนั้นกำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทย เล็บปลอมที่ทำขึ้นจากสารเคมีเป็นเล็บปลอมที่ไม่มีลวดลาย ต้องทำที่ร้านทำเล็บโดยผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในการเขียนรูป การขึ้นรูป ซึ่งจะมีราคาสูง ส่วนเล็บปลอมที่ทำจากพลาสติกส่วนใหญ่จะมีลวดลายอยู่แล้ว ราคาไม่แพง สามารถหาซื้อได้จากร้านค้าทั่วไปทำได้ด้วยตัวเองโดยการนำเล็บปลอมมาติดกับเล็บจริง และใช้กาวเป็นตัวเชื่อมติด
ทั้งนี้ การต่อเล็บปลอมที่ทำจากแผ่นพลาสติกโดยใช้กาวเชื่อมติดกับเล็บจริงนั้น อาจเกิดอันตรายต่อผู้ให้บริการและผู้รับบริการได้ เนื่องจากกาวที่ใช้เชื่อมติดเป็นกาวสังเคราะห์มีสาร ethyl-2-cyanoacrylate (เอธิล ทู ไซยาโนอะคริเลต) ซึ่งเป็นสารที่ใช้ยึดติดแบบแห้งเร็ว รู้จักกันในชื่อ ซูเปอร์กลู เป็นส่วนประกอบหลัก ที่อาจทำให้ผู้สัมผัสสารนี้เกิดการแพ้ได้ โดยเฉพาะผู้ที่ไวต่อสารเคมี และไอระเหยยังทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตาและทางเดินหายใจ
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการสำนักเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งได้ทำการวิเคราะห์หาปริมาณเอธิล ทู ไซยาโนอะคริเลต ในกาวติดเล็บปลอมที่ทำจากแผ่นพลาสติก จำนวน 23 ตัวอย่าง พบ เอธิล ทู ไซยาโนอะคริเลต จำนวน 21 ตัวอย่าง มีปริมาณในช่วงร้อยละ 0.20 – 99 โดยน้ำหนัก
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กฎหมายไทยยังไม่มีการควบคุมหรือกำกับปริมาณการใช้สารเอธิล ทู ไซยาโนอะคริเลต ในผลิตภัณฑ์กาวที่ใช้ในการติดเล็บปลอม มีแต่การควบคุมปริมาณ formaldehyde (ฟอร์มัลดีไฮด์) ในผลิตภัณฑ์สำหรับเล็บ ดังนั้นการตรวจวิเคราะห์ครั้งนี้จึงทำให้ทราบปริมาณสารเคมีในผลิตภัณฑ์กาวติดเล็บปลอม ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ให้บริการและผู้รับบริการได้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่จะนำไปสู่การออกกฎหมายควบคุมปริมาณสารเคมีที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อผู้บริโภคต่อไป
สำหรับข้อควรระมัดระวังในการติดเล็บปลอมไม่ว่าจะทำเองที่บ้าน เข้าร้านเสริมสวยหรือร้านทำเล็บ คือ เรื่องการหมักหมมของสิ่งสกปรกและเชื้อโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเล็บปลอมที่หลุดออกแล้วนำมาติดทับใหม่โดยไม่ทำความสะอาดให้ดี เชื้อราและเชื้อแบคทีเรียอาจเจริญเติบโตระหว่างชั้นเล็บ ทำให้ผิวหนังอักเสบ ดังนั้นผู้ให้บริการควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์เป็นประจำ ซึ่งจะเป็นการช่วยป้องกันเชื้อโรคได้อีกทางหนึ่ง และขณะต่อเล็บทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการควรใช้ผ้าปิดจมูก เพื่อป้องกันการสูดดมสารเคมี
Thank : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
.................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น