คนกรุงเทใจ "ผู้ว่าฯไร้สี" เอียนการเมือง

คนกรุงเทใจ "ผู้ว่าฯไร้สี" เอียนเต็มทีการแบ่งแยกการเมือง
          อีกไม่กี่สิบวันก็ถึงคราวที่คนกรุงจะได้มีโอกาสเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ใหม่เพื่อมารับใช้ชาวเมืองหลวง
          ซึ่งการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.มักจะเป็นการเลือกตั้งที่สำคัญ เพราะจะบอกว่าชาวเมืองหลวงจะเต็มใจยกเมืองให้อยู่ในกำมือใคร

          วัดจากสถิติการเลือกตั้งผู้ว่าฯครั้งแรกปี 2518 มักสู้กันระหว่างผู้สมัครสังกัดพรรคโดยมีประชาธิปัตย์เป็นตัวยืน ผู้ว่าฯจากการเลือกตั้งครั้งนั้นก็ประชาธิปัตย์
          ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดชาวกรุงบางกลุ่มที่คิดว่า ผู้ดูแลเมืองหลวงควรเป็นคนละกลุ่มกับรัฐบาลเพื่อเป็นการถ่วงอำนาจ และให้สิทธิ์ผูกขาดกับคนกลุ่มเดียว

          แต่ทว่าศึกครั้งใช่ว่าประชาธิปปัตย์จะมีชัยมานอนๆ เพราะหลังจากพิษน้ำท่วมคราวที่แล้ว
          ทำให้เห็นได้ว่าการที่เลือกกลุ่มการเมืองตรงกันข้ามกัน ก็ใช่ว่าจะดี เพราะจากการดูแลนั้นเป็นไปอย่างล่าช้า และกลายไปเป็นเกมส์การเมืองระหว่าง 2 ฝ่ายไปซะได้ คนรับกรรมก็คือชาวบ้านแบบเต็มๆ
           ประกอบกับผลงานการบริหารกทม.ของประชาธิปัตย์ที่ผูกขาดมาเป็นเวลาถึง "9 ปี" ก็มิได้มีผลงานใดเป็นชิ้นเป็นอันที่จับต้องได้
          ทำให้ชาวกรุงส่วนหนึ่งเริ่มเบื่อกับการผูกขาดยกเมืองหลวงให้ประชาธิปัตย์ดูแลแล้ว

"ผู้ว่าฯไร้สี" ... ทางออกที่ตอบโจทย์

          ผู้สมัครสังกัดอิสระ หรือ "ผู้ว่าฯไร้สี" นั้นจึงเป็นทางออกที่ดูจะลงตัวที่สุดของศึกครั้งนี้
แต่ทว่าผู้สมัครอิสระทุกท่านนั้นจะสามารถเป็น "ผู้ว่าฯไร้สี" ได้หรือไม่ต้องมาดูกันยาวๆ

ผู้สมัครสังกัดอิสระท่านแรก - 
           นายโฆสิต สุวินิจจิต อดีตประธานบริษัทมีเดียออฟมีเดียส์ ผู้ผลิตสื่อโทรทัศน์ชื่อดัง และอดีตประธานกรรมการบริษัท สปริง คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือเจ้าของโทรทัศน์ข่าวดาวเทียม สปริงนิวส์
           ซึ่งนอกเหนือจากประเด็นที่หลายๆคนมองว่ากลุ่มการเมืองที่มีสื่ออยู่ในมือนั้นน่ากลัวเกิน อาจทำให้โฆษิตไม่ได้มีโอกาสไปถึงฝัน
          ยังมีรูปถ่ายที่แสดงความสัมพันธ์อันสนิทสนมกับอดีตท่านนายกฯทักษิณอีก ซึ่งทางนายโฆสิตก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่ขอใช้คำว่าสนิทสนมกับทุกฝายแทน
           ด้วยเหตุนี้อาจทำให้หลายคนมองว่า โฆษิต สุวินิจจิต มีสีอื่นแอบแฝงต้องดูกันต่อไป

            ผู้สมัครอิสระอีกท่านที่น่าสนใจและเปิดตัวเป็นทางการแล้วก็คืออดีตผบ.ตร. "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส" ฉายาวีรบุรุษนาแก, และ มือปราบตงฉิน
            ซึ่งดูแล้วน่าจะมีโอกาสที่จะเป็นม้ามืดมาแรงเหมือนกัน ด้วยเป็นการเปิดช่องทางตันทางการเมืองที่ไม่อยากยกพรรคการเมืองให้ฝักฝ่ายใด
            แต่ด้วยตัวผู้สมัครอิสระมักไม่มีฐานเสียงเดิมรองรับ ก็ประมาณไม้ซีกงัดไม้ซุง 

             การเลือกผู้ว่าฯกทม.งวดนี้น่าจะสนุกมาก ไม่แน่หรอกม้ามืดก็อาจโค่นม้าตัวเก็งจากพรรคใหญ่ก็ได้ ใครจะไปรู้

เรียบเรียงโดย: AmumuLoL 
ที่มา: Internet

................................................................................................