เนื่องจากธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่ให้ผลกำไรที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ อย่างเช่น ตัวสินค้า วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร แผนการตลาด และวิธีการทำงานด้วย แต่สิ่งที่สำคัญมาก หากเราคิดจะเข้าร่วมธุรกิจกับบริษัทขายตรงสักบริษัทหนึ่ง เราควรพิจารณาในเรื่องของตำแหน่งของธุรกิจที่เรากำลังเข้าร่วม ว่าอยู่ตรงส่วนไหนของกราฟที่แสดง ประเด็นนี้จะทำให้เราเข้าใจในธุรกิจและสามารถทำงานบริหารงานได้ดียิ่งขึ้น
ช่วงแรก 0-1 ปีเป็น ช่วงที่บริษัทเริ่มเปิดตัว ผู้ที่เข้าร่วมธุรกิจในช่วงนี้ไม่ต่างอะไรกับ "ผู้บุกเบิก" ความลำบากของช่วงนี้คือตัวระบบที่ยังไม่นิ่ง มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และบางที่อาจนำไปสู่การศูนย์เสียคนในองค์กรใต้ล่างได้ ดังนั้นผู้ที่เข้าร่วมธุรกิจในจุดนี้ จำเป็นต้องมีภาวะความเป็นผู้นำสูง สามารถให้กำลังใจตัวเองและลูกทีมใต้ล่างได้ ส่วนคนที่ไม่พร้อมที่จะเรียนรู้ และพัฒนาตนเอง ก็จะมีแนวโน้มที่จะก้าวออกไปจากธุรกิจได้ง่ายกว่า คำถามก็คือคุณกล้าหรือไม่ ?? ที่จะเสียงกับธุรกิจที่ยังไม่สามารถสร้างกำไรให้คุณได้ในตอนแรก คุณกล้าหรือไม่ที่จะวางระบบลองผิดลองถูกด้วยตนเอง คุณกล้าหรือไม่ที่จะยอมรับว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่รู้ และต้องการการพัฒนาศักยภาพของตนให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
ช่วงที่สอง 1-5 ปี ช่วงเจริญเติบโต ช่วงนี้จะมีการเจริญเติบโตขององค์กรสูงถึง 80% กล่าว คือเมื่อผ่านช่วงวางระบบมาแล้วระบบมีความนิ่งระดับหนึ่ง สิ่งที่ต้องการในลำดับต่อไปคือ "คน" ช่วงนี้การทำงานหลักๆก็คือ การรับสมัครคน และจะนำมาซึ่งผู้นำระดับกลาง ซึ่งเป็นผู้ที่เล็งเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ของธุรกิจ โดยเพราะช่วงนี้จะเป็นช่วงที่สามารถกอบโกยกำไรได้อย่างมาก และแน่นอนว่า ทักษะในเรื่องของการดูแลคนเป็นเรื่องที่จำเป็นมากเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน ดังนั้นในช่วงที่สองนี้จะสามารถสร้างทั้งผลตอบแทนและความเจริญเติบโตใน องค์กรไปได้พร้อมๆ กัน
ช่วงที่สาม 5 ปีเป็นต้นไป เป็น ช่วงรักษาระดับธุรกิจ เป็นช่วงที่หันไปทางไหนก็จะมีแต่คนที่ทำธุรกิจเดียวกัน ดังนั้นความอยู่รอดของธุรกิจจึงวัดกันที่ตัวสินค้าเสียเป็นส่วนใหญ่ การที่ บริษัทจะคงอยู่ต่อไปได้นั้น สินค้าต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ เป็นที่ต้องการขอท้องตลาด ผู้บริโภคซื้อแล้วสามารถซื้อซ้ำได้ ถ้าสินค้าของ บริษัทไหนที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ได้เป็นที่ต้องการของท้องตลาด บริษัทนั้นก็มีโอกาสหลุดออกจากวงโคจรธุรกิจได้
ทั้งหมดเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมธุรกิจเครือข่ายต้องให้ ความสำคัญ แต่ที่สำคัญที่สุดคงต้องกลับมาที่ตัวของเราเอง ต้องเข้าใจธรรมชาติว่า ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด แต่อยู่ที่การมองโลกด้วยความเป็นจริงเปิดใจยอมรับ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าตอนนี้ธุรกิจจะอยู่ตรงจุดไหน คุณมีโอกาสสร้างความสำเร็จได้ทั้งนั้น
กลับมาที่ Global Rich Club ธุรกิจของเราเข้ามาในประเทศไทยเมื่อเดือน สิงหาคม 2010 มีสินค้าเกี่ยวกับการท่องเที่ยว คือที่พักโรงแรมและรีสอร์ททั่วทวีปเอเชีย ระดับ 3-5 ดาว โดยมีนโยบายแผนการตลาดแบบ Multi Level Marketing (เครือข่าย,ขายตรง) เน้นการประชาสัมพันธ์ทางอินเตอร์เน็ทมากกว่าการขาย ด้วยระบบที่ดีที่สุดในประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า "อินเตอร์เน็ทกำลังมีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกคนและจะมีมากยิ่งๆ ขึ้นไป บวกกับแผนการตลาดที่สร้างความเติบโตอย่างรวดเร็ว" ทำให้ Global Rich Club กลายเป็นธุรกิจแห่งยุคแห่งสมัย และเป็นธุรกิจน้องใหม่ที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูงมากในอนาคต
..........................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น