tororichclub

tororichclub

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556


เรามีวิธีแก้เครียดง่ายๆ—ง่ายที่สุด—ด้วยการ ‘กิน’ ที่จะทำให้คุณหายเครียดภายในสิบนาที
  
บร็อคโคลี่

รวมทั้งผักสีเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง มีวิตะมินที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายในยามที่เราเครียด มีโพแทสเซียมสูง ทำให้ระบบประสาทผ่อนคลาย บร็อคโค
ลี่นึ่งราดน้ำสลัดงาแบบญี่ปุ่นเป็นอาหารจานผักยอดนิยมในยุคนี้ แต่ถ้าฝืนกระเดือกเข้าไปไม่ได้จริงๆ ลองทำเป็นซุปบร็อคโคลีเนื้อครีมเข้มข้นหอม
หวานทานง่าย

 ส้ม

เวลาเราเครียด ร่างกายจะหลั่งสารอนุมูลอิสระออกมามากเป็นพิเศษ ซึ่งจะทำให้แก่เร็ว (กรี๊ด…) วิตะมินซีนี่แหละที่เป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยกำจัด
ผู้ร้ายที่ชื่ออนุมูล อิสระ ช่วยคลายความเครียด และปรับความดันเลือดที่พุ่งขึ้นสูงปรี๊ดเวลาเราโกรธหรือเครียดให้ลดเป็นปกติ เวลาปอกเปลือกส้มแค่ได้
กลิ่นหอมสดชื่นก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ในพริบตา

ข้าวกล้อง

รวมทั้งตระกูลธัญพืชไม่ขัดสีทั้งหลาย และขนมปังโฮลวีท เหล่านี้เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรทชั้นดี มีวิตะมินบีสูง ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
กระตุ้นการหลั่งของสารเซโรโทนินที่ทำให้อารมณ์ดี และยังมีใยอาหารมาก โอ๊ย–ดีไปหมด

ถั่วเหลือง

รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ น้ำเต้าหู้ ฯลฯ มีโพรทีน วิตะมินบี แคลเซียม และแม็กนีเซียมสูง ลดความเครียด แล้วยังมีพลังพิเศษทำให้
ร่างกายตื่นตัว คึกคัก กระฉับกระเฉง

มันเทศ

เวลาเครียด ร่างกายจะเรียกร้องอยากบริโภคคาร์โบไฮเดรทกับน้ำตาล แทนที่จะพุ่งไปกินโดนัทหรือขนมเค้ก เปลี่ยนมากินมันเทศแทนจะดีกว่า เพราะ
เป็นคาร์โบไฮเดรทชั้นดี ชื่อภาษาอังกฤษคือสวีทโพเทโท อย่าสับสนกับมันฝรั่งนะคะ

ถั่วอัลมอนด์ พิสทาชิโอ และวอลนัท

การกินถั่วหลากหลายชนิดเพียงแค่กำมือเดียวก็ทำให้หายเครียดได้ ถั่วมีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมายที่ช่วยเสริมสร้างสารอาหารที่หายไปในขณะ
ที่เราจิตใจระส่ำระสาย

ปวยเล้ง

ชื่อภาษาอังกฤษว่าสปินิช–ไม่ใช่สปิแนช และแท้จริงแล้วมันคือผักปวยเล้ง–ไม่ใช่ผักโขม ที่คนไทยอ่านชื่อภาษาอังกฤษผิดและแปลผิดกันมานมนาน
?ผักวิเศษนี้ช่วยเสริมสร้างแม็กนีเซียม ซึ่งผู้ที่ขาดสารอาหารนี้จะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย จิตใจแห้งเหี่ยว ปวยเล้งอบชีสร้อนๆ ยืดๆ–ทั้งอร่อยทั้งมี
ประโยชน์

ปลาแซล์มอน

รวมทั้งปลาทะเล เช่น ทูน่า แม็คแคเรล ฯลฯ มีโอเมก้าสามและเซลีเนียม ทำให้เราจิตใจสงบ ผ่อนคลายความว้าวุ่น บรรเทาอาการจิตตก

ชาเขียว
ตัวแม่แห่งวงการอาหารเพื่อสุขภาพที่มีประโยชน์ร้อยแปด รวมทั้งช่วยทำให้จิตใจสงบและผ่อนคลายเข้าสู่โหมดชิลล์ๆ ภายในเวลาอันรวดเร็ว เป็น
เพราะสารสำคัญในชาเขียวที่ชื่อแอล-ธีแอนิน แล้วยังช่วยให้มีสมาธิ และหลับสบายขึ้นด้วย

กล้วย

กล้วยมีสารทริพโทแฟนมาก กระตุ้นการหลั่งของสารเซโรโทนิน ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย แก้อาการซึมเศร้า กล้วยปั่นหอมหวานเย็นๆ
ชื่นใจสักแก้ว แค่จิบเดียวก็ทำให้เรายิ้มออก

Thank : poppaganda.net
...........................................................................................

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

TrueMove H เปิดตัว TRUE BEYOND สมาร์ทโฟนและแท็บแล็ตภายใต้แบรนด์ตัวเอง

         เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2556 ทาง TrueMove H ได้จัดเปิดตัว TRUE BEYOND สมาร์ทโฟนและแท็บแล็ตภายใต้แบรนด์ตัวเอง โดยแบ่งเป็นสมาร์ทโฟน 2 รุ่นและแท็บแล็ต 1 รุ่น โดยมีสเปคดังนี้ครับ


สมาร์ทโฟน TRUE BEYOND ราคา 6,590 บาท

ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 (Jelly Bean)
CPU Quad-Core 1.2 GHz
หน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 540×960 พิกเซล
กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
รองรับ 3G 850 MHz และ 2100 MHz, HSDPA 7.2 Mbps
ส่วนลดค่าแพคเกจรายเดือน 3,600 บาท


แท็บเล็ต TRUE BEYOND Tab ราคา 4,990 บาท

ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 (Jelly Bean)
หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
หน่วยความจำภายใน 16 GB
รองรับ 3G 850 MHz และ 2100 MHz, HSDPA 7.2 Mbps
พอร์ต HDMI
ส่วนลดค่าแพคเกจรายเดือน 3,000 บาท


สมาร์ทโฟน TRUE BEYOND 4G ราคา 9,990 บาท (วางจำหน่าย 16 มิถุนายน 2556)

ระบบปฏิบัติการ Android 4.2 (Jelly Bean)
CPU Qualcomm Snapdragon Dual-Core 1.5 GHz
หน้าจอสัมผัสขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด 720×1280 พิกเซล
กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมกล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล
หน่วยความจำภายใน 8 GB
รองรับ 3G 850 MHz, 2100 MHz และ LTE 2100 MHz
ส่วนลดค่าแพคเกจรายเดือน 6,000 บาท
         โดยทุกเครื่องจะมาพร้อมกับแอพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่นำเอาสาวๆ Girls’ Generation มาประยุกต์ใส่เข้าไปด้วย อย่างเช่น H THEME ก็จะมี Live Wallpaper เป็นสาวๆ วง Girls’ Generation และแอพลิเคชั่นอื่นๆ อีก เช่น H CAMERA, H BOOK, H DANCE และ H CLUB รวมถึง Everysing แอพลิเคชั่นสำหรับร้องคาราโอเกะจากเกาหลีด้วยครับ
.............................................................................................

วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

กทม เชิญชวนสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ ท้องสนามหลวง


       กทม.ทำพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวงให้ ปชช.ได้สักการะบูชาเนื่องในวันวิสาขบูชา ตั้งแต่ 18-24 พ.ค.นี้
       
       วันนี้ (18 พ.ค.) ที่สนามหลวง นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระราชทานจากพระบรมมหาราชวัง ซึ่งซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานมาประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสสักการะบูชา ในโอกาสงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชาโลก ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 18-24 พฤษภาคม ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ภายใต้แนวคิด “26 ศตวรรษวิสาขบูชาโลก” 
       
       ทั้งนี้ กิจกรรมครั้งนี้ กทม.ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่ายจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา จัดขึ้น เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 86 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา และวันนี้เวลา 15.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จะเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน สำหรับภายในงานมีกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาอีก อาทิ พิธีเทศน์มหาชาติ พิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 231 รูป ในวันวิสาขบูชา พิธีเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 25 พฤษภาคม จะจัดให้มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุกลับพระบรมมหาราชวังด้วย

Thank : manageronline
........................................................................................

วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ดัดจริตสี่ประเภท


          เคยได้ยินกันไม๊ ? คนเราต่อให้ตาโตเท่าไข่ห่าน ไข่หงส์ ก็ไม่เห็นขนตาของตัวเองหร๊อก !!! ก็เหมือนพวก ดัดจริต นั่นแหละ ทำอะไรลงไปก็ไม่รู้ตัวหรอกว่าคนอื่นเค้าจะคิดยังไง ไม่รู้ตัวเพราะมัว ดัดจริต (ซะงั้น)

          1. ดัดจริตแบบคุณหนู สาว ๆ พวกที่นิยม ดัดจริต อย่าง นี้เนี่ยจะมัดรวมกับคำว่าหยิ่ง มักจะมาเป็นแพคคู่กันเสมอ สันนิษฐานได้ว่าสาว ๆ พวกนี้จะพกน้ำมันมวยไว้ในกระเป๋าตลอดเวลา พอว่างจากการดัดจริต ก็ควักเอาออกมาทาถู ๆ ที่ต้นคอ เพราะเคล็ดจากการเชิ่ดดดดด ๆๆๆ ใส่คนอื่นแบบบ้าดีเดือด คนที่ ดัดจริต ประเภท นี้จะชอบอยู่เป็นสังคม แต่ต้องเป็นพวกเดียวกันเท่านั้นนะ อะไรออกใหม่อินเทรนด์ ๆ แพง ๆ จะได้เห็นจากกลุ่มนี้ก่อนเลย สัญลักษณ์ความเป็นคุณหนูแท้พิมพ์นิยมให้สังเกต ที่ก้น ถ้าก้นด้านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของเทียม (นั่งรถเมล์หรือ มอเตอร์ไซด์จนก้นด้าน) ส่วนของแท้พิมพ์นิยมจะมีคนขับรถ คุณพ่อ หรือคุณแม่มาส่งเท่านั้น ที่สำคัญก้นจะไม่ด้านหรือด้านนิดเดียว สาว ๆ ที่นิยม ดัดจริต แบบ นี้นอกจากจะไม่ค่อยมีเพื่อนร่วมห้อง ร่วมรุ่น หรือร่วมวงเหล้าแล้ว มิหนำซ้ำเพื่อนในกลุ่มของตัวเองก็จะคอยแว้งกัดให้รำคาญใจ ก็ใครล่ะจะให้คน อื่นมา ดัดจริต มาเริ่ด มาเชิ่ดเหนือตัวเองล่ะนะ ..ใช่ป่ะ ?

          2. ดัดจริตแบบแฟชั่นจ๋า สาว ๆ ที่ ดัดจริต สายพันธุ์นี้สังเกตง๊ายง่าย เพราะจะมีความมั่นใจสูงกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้า เรียกว่าไม่มีการมานั่ง ดัดจริต เก็บ กดหรือแคร์สายตาใคร ๆ ให้เสียเวลา มีอุปนิสัยแบบยอมหักไม่ยอมงอ ยิ่งพอได้มีโอกาสเชยชมโลกกว้างก็เลยเอาใหญ่ แต่งตัวจัดตั้งแต่ปลายผมจรดปลายเท้า โบ๊ะหน้าฉ่ำขาวผ่อง ริมฝีปากแดงแปร๊ด ๆ แปดชาติก็ไม่จาง ขนตายาว งอน หนา โดดเด่นกว่าชาวบ้านเค้า เสื้อผ้า หน้า ผม.. ต้องเด่น ต้องอินฯ ต้องเรียกเรตติ้ง ประหนึ่งว่าหลุดออกมาจากงาน ELLE Fashion Week ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะว่าพวกเธอมั่น..มั่น มั่นที่จะ ดัดจริต จึงเป็นเหตุอันสมควรที่จะโดนครหา โดนด่า จิกกัดทั้งในที่ลับและที่แจ้ง สาว ๆ ที่เลือกจะ ดัดจริต แบบนี้ต้องมีบุญญาธิการสั่งสมมานิดนึง เป็นการ ดัดจริต ที่ใช้งบวิ่งไล่ตามเทรนด์พอสมควร..ฮ่าๆๆๆๆ

          3. ดัดจริตแบบบ้าผู้ชาย อันนี้น่ากลัว สภาพไอ้หนุ่มที่ตกเป็นเหยื่อคงดูไม่ได้ ร่างกายอ่อนล้า เสื้อผ้ารุ่งริ่ง เนื่องจากต้องหนีหัวซุกหัวซุนจากสาว ๆ ที่ ดัดจริต แบบ บ้าผู้ชายทั้งหลาย สาวพวกนี้อาจออกล่าเหยื่อคนเดียวหรือเป็นกลุ่มก็แล้วแต่ สถานการณ์ แต่ถ้าไปเป็นกลุ่ม ไอ้หนุ่มคนนั้นจะเป็นอะไรที่เฮงสุด ๆ เพราะจะถูกโอ้โลมปฏิโลม รายล้อมไปด้วยสาว ๆ ที่ส่วนมากมักมีรูปเป็นทรัพย์และมีคติประจำใจที่ว่า “กูจะ flirt เอาถ้วย” ไม่ว่าจะยังไง สถานการณ์ไหน กูขอ flirt ไว้ก่อน จะหล่อ จะเ...ยก หุ่นอัฟริกา หน้าติมอร์ ก็ขอให้กูได้ flirt ..อันนี้ไม่ดี เสียราคา เสียกิริยาหมด แต่เรื่องนี้มีประเด็นที่น่าสนใจ เพราะว่าบางคนน่ะมัน flirt เล่น ๆ แต่ตอนเอาน่ะเอาจริง ๆ (ได้แล้วทิ้งก็มีถมเถ) แต่ไอ้บางคนมันก็ flirt เล่น ๆ แต่ดัน (เจือก) คิดจริง ๆ คือแอบคิดไปเองน่ะ วัน ๆ ขอให้ได้จีบ ได้แซว ได้ถึงเนื้อถึงตัวให้พอน้ำลายหก พอได้หัวเราะคิกคัก พอให้ได้อาย ได้เขิน ก็ชื่นอกชื่นใจ ไอ้สาว ๆ ประเภทหลังเป็นประเภทปากดี เพราะนอกจากไอ้หนุ่มคนนั้นจะโดนแทะโลมด้วยสายตาแล้ว วาจาของสาว ๆ กลุ่มนี้ก็ใช่ย่อย ฮ่าๆๆๆๆๆ.. แซวกันให้ได้อายและเสียคนไปเลยก็มีมาก ให้เอาจริง ๆ ก็ไม่เอาหรอก มันอาย มันเขิน มันกระดากไปหมด เรียกว่าเกิดมา ดัดจริต แบบ เสียชาติเกิด เสียพลังงานกาย (แต่ก็ได้พลังงานใจ) และประเภทหลังนี้เองที่มักจะขึ้นคาน เคิ้น แว่ว ๆ มาว่าเค้าจะส่งลงไปรบที่ภาคใต้ เนื่องจากปัจจุบันมันกระแดะเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนน่าตกใจ

          4. ดัดจริตแบบแอบดัดจริต อัน สุดท้ายนี่น่ากลัวที่สุด เพราะสาว ๆ ประเภทนี้ กูรูเองเสียท่า เสียดุลการค้า เสียผู้ชายที่หมายปองให้มันไปซะก็หลายคน มันเป็นยังไงน่ะเหรอ ดัดจริต แบบแอบดัดจริต อี พวกสาว ๆ ประเภทนี้แหละที่เหล่าผู้ชายทั้งหลายนิยมกันนัก เพราะน้องเค้าน่ารัก ตาสวย ยิ้มหวาน พูดเพราะ ที่สำคัญกิริยามารยาทนี่เรียบร้อยสุด ๆ อนิจจา.. หารู้ไม่.. มันแอบ ดัดจริต แบบ ไม่ให้หน้าไหนรู้ตัว เดี๋ยวนะ.. ไม่ได้พูดเพราะอิจฉาที่มันสวยกว่านะ... คืออีพวกนี้ล่ะที่น่ากลัว ไอ้ยิ้มหวาน ๆ นี่แหละ ไอ้ตาสวย ๆ นั่นแหละที่มันเอาไว้ล่อผู้ชาย ผู้ชายที่ไม่ใช่...น่ะ และก็อีพวกนี้อีกนี่แหละที่ใช้ความ ดัดจริต ของ มันเป็นหอกข้างแคร่ เป็นศัตรูเงียบ ๆ ของเราเหล่าผู้หญิงด้วยกัน เพราะเราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันคิดอะไรกันอยู่ โลกนี้มันโหดร้าย ไม่น่าไว้ใจจริงจริ๊งงงง...

Thank : variety.mwake.net/story/.com
...........................................................................................

ประโยชน์ของ ... ขอบขนมปัง


        เคยได้ยินมาว่าส่วนของขนมปังที่มีไฟเบอร์มาก ที่สุดคือบริเวณขอบขนมปัง ทำให้เกิดความสงสัยว่าขนมปังเวลาอบก็ใช้แป้งอบเป็นก้อนเดียว กันไปเลย แต่เหตุไฉนไฟ เบอร์จึงมีปริมาณสูงแค่บริเวณขอบ

         ไม่ใช่ไฟเบอร์ แต่เป็น สารต้านอนุมูลอิสระ ดร.โทมัส ฮอฟมานน์ นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยมุนสเตอร์ เยอรมนี เป็นผู้พบว่า ขอบขนมปังเป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระอันอุดมสมบูรณ์มากกว่าส่วนอื่นๆ ของขนมปัง งานวิจัยของเขามาจากการตรวจสอบขอบขนมปัง เนื้อขนมปัง และแป้งธรรมดา พบว่าขอบขนมปังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า โพรนีลไลซีน (pronyl-lysine) มากกว่าในส่วนที่เป็นขนมปังขาว 8 เท่า ขณะที่แป้งธรรมดาไม่มีเลย หมายความว่า สารต้านอนุมูลอิสระที่ว่าจะเกิดขึ้นต่อเมื่อขนมปังผ่านกระบวนการอบมาแล้วเท่านั้น

         สารโพรนิลไลซีน เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาของกรดอะมิโนแอล-ไลซีน แป้ง และน้ำตาล ในขั้นตอนการอบ เรียกว่าปฏิกิริยาเมลาร์ด (Maliiard reaction) ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสีน้ำตาลบนผิวหน้าของขนมปังที่ผ่านการอบแล้ว และกระ บวนการนี้ยังเป็นตัวสร้างสารให้กลิ่น รสชาติให้ขนมปัง รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ

         งานวิจัยบอกด้วยว่าขนมปังที่มีสีน้ำตาลเข้ม เช่น ขนมปังโฮลวีท มีสารต้าน อนุมูลอิสระมากกว่าขนมปังสีขาว และสารต้านอนุมูลอิสระจะยิ่งเพิ่มจำนวนหากก้อนขนมปังที่เข้าเตาอบมีขนาดเล็ก เพราะชิ้นขนมปังเล็กๆ จะมีพื้นผิวที่มากขึ้นในการเกิดปฏิกิริยาในกระบวนการนี้ หากเทียบกับขนมปังที่เป็นก้อนใหญ่ หรือเป็นปอนด์ แต่ฮอฟมานน์เตือนว่า ถ้าพยายามอบขนมปังให้เป็นสีน้ำตาลจนเกรียมมากไป สารเคมีที่มีประโยชน์ก็จะอันตรธานได้ง่ายๆ เหมือนกัน

        ทั้งนี้ วิธีการที่ทำให้ขอบขนมปังมีประโยชน์คือการอบ จากที่กระบวนการอบเป็นการเปลี่ยนสภาพที่ยังดิบให้สุกโดยการใช้ความร้อน ซึ่งทั่วไปแล้วเตาอบ จะมีอุณหภูมิระหว่าง 191-232 องศาเซลเซียส ระยะเวลาในการอบขึ้นอยู่กับขนาดและส่วนผสมของขนมปังแต่ละชนิด ในขณะอบจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ทางกายภาพและทางเคมีในโด คือ.......

         ความร้อนจะแผ่กระจายไปยังโด กระตุ้นให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีแรงดัน น้ำกลายเป็นไอและแอลกอฮอล์ขยายตัว ช่วยกันดันโครงร่างของโดให้มี ปริมาตรเพิ่มขึ้น

         ขณะเดียวกันความร้อนในช่วงแรกของการอบจะกระตุ้นการทำงานของยีสต์และเอนไซม์ ให้เกิดกระบวนการหมักเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดก๊าซและแอลกอฮอล์ เสริมขึ้นมา ซึ่งโดยปกติยีสต์จะหยุดการทำงานที่ 43 องศาเซลเซียส และจะตายที่อุณหภูมิ 54 องศาเซลเซียส เมื่อความร้อนเพิ่มขึ้นสตาร์ชจะพองตัวและกลายเป็นเจล ขณะขนมปังสุกนี้ สตาร์ชจะเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอะมิโลสจะเคลื่อนย้ายออกจากเม็ดสตาร์ช เมื่อทำให้ขนมปังเย็นและทิ้งไว้นาน อะมิโลสจะเปลี่ยนแปลงกลับ มีลักษณะขุ่นเป็นตะกอนขาวอีกครั้ง

          ในระหว่างที่สตาร์ชเกิดเจลนั้นจะดึงน้ำจากโดมาทำให้กลูเตนสูญเสียน้ำ เปลี่ยนสภาพจากเดิมที่เคยยืดหยุ่นกลับแข็งตัวขึ้น ทำให้ได้โครงร่างของเซลล์มีรูพรุน ผนังเซลล์บางเป็นใยเชื่อมติดกัน รูปรีบ้าง กลมบ้าง กระจายอยู่ทั่วไปทั้งก้อนขนมปัง ในขณะเดียวกันเอนไซม์และยีสต์จะค่อยๆ ตายไป เนื่องจากทนความร้อนที่เพิ่มขึ้นไม่ได้

          ส่วนผิวนอกของขนมปังจะเปลี่ยนสีเพราะเกิดคาราเมล เนื่องจากความร้อนทำให้น้ำตาลที่ผิวโดเปลี่ยนสภาพเป็นสีน้ำตาล และการเกิดปฏิกิริยาเมลาร์ด จากน้ำตาลและกรดอะมิโน ให้สารสีน้ำตาลเรียกว่ามิลานอยดิน พร้อมเกิดสารให้กลิ่นรส และสุกในที่สุด โดยเกิดการสูญเสียน้ำหนักของก้อนโด 9-10% เนื่อง จากการระเหยของน้ำและสารอื่นๆ

Thank :k@pook
...........................................................................................

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ยาลดไขมันช่วยรักษาอาการนกเขาไม่ขัน...


ถูกกว่าไวอะกร้า ยาลดไขมันช่วยรักษาอาการนกเขาไม่ขันได้!

          หากนกเขา (ที่ไม่ใช่ของเขาอย่างชื่อ แต่เป็นของคุณต่างหาก) เกิดอาการไม่ขัน ไม่สู้ ไม่ร้องจุ๊กกรูขึ้นมา จะพาออกศึกก็ทำน้ำยาอะไรไม่ได้ วิธีแก้ปัญหาของท่านชายหลาย ๆ คนคงไม่พ้นร้องหาไวอะกร้า (Viagra) หรือ ซิอาลิส (Cialis) ซึ่งเป็นยาช่วยรักษาอาการไม่แข็งขันหรืออาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ แต่ยาแบบนี้เม็ดหนึ่งก็ราคาแพงเอาเรื่องอยู่ไม่น้อย (หากเป็นไวอะกร้าหรือซิอาลิสแท้จากบริษัทผู้ผลิตที่ถือลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก ต่างประเทศ ไม่รวมประเภทตัวยาเดียวกันนำมาปรุงสูตรใหม่ที่ผลิตในประเทศนะครับ) แต่ในตอนนี้พบว่า ยาที่มีราคาย่อมเยากว่าหลายเท่า และยังใช้แพร่หลายกว่าอย่าง "สเตติน" (Statin) อันมีสรรพคุณเป็นยาลดไขมัน ก็สามารถใช้รักษาอาการนกเขาไม่ขันได้เหมือนกัน 

          สรรพคุณของไวอะกร้าเป็นที่ร่ำลือกันดีว่าใช้แล้วช่วยให้ปึ๋งปั๋ง จากที่รบไม่เคยชนะก็พลิกมาเผด็จศึกได้ราบคาบ แต่ก็ใช่ว่ามันจะใช้ได้ผลดีกับทุก ๆ คน เพราะจากการเก็บสถิติในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่ายังมีคุณผู้ชายอีกถึง 30% ที่ลองใช้ไวอะกร้าแล้วแต่ก็ปลุกเจ้าจุ๊ดจู๋ไม่ขึ้นเสียที ในขณะที่ สเตติน ซึ่งเป็นยาที่ใช้ลดไขมันในเส้นเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ กลับดูน่าสนใจขึ้นมา เมื่อมันน่าจะช่วยแก้ไขอาการนกเขาไม่ขันได้ เพราะหลายครั้งที่พบว่าอาการหงอยเหงานกเขาไม่สู้นั้นเกิดจากไขมันที่พอกอุด ตันเส้นเลือดที่จะไปหล่อเลี้ยง "ตรงนั้น" มากเกินไป

เพื่อหาความเชื่อมโยงของของ สเตติน กับการทำให้นกเขาที่ไม่ขันกลับมาชูคอรอออกรบอีกครั้ง การทดลองจึงได้เกิดขึ้นโดยกลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแทนต้า ประเทศอียิปต์ โดยผลการวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารนานาชาติว่าด้วยเรื่องการ วิจัยอาการไร้สมรรถภาพทางเพศ (International Journal of Impotence Research) 

          การทดลองได้ทำกับกลุ่มชายผู้มีปัญหาเรื่องนกเขาไม่ขันจำนวน 60 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้เคยลองรักษาด้วยยาไวอะกร้ามาแล้วแต่ไม่ได้ผล ผู้วิจัยแบ่งกลุ่มชายนกเขาไม่ขันออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกให้รับประทานสเตตินวันละ 80 มิลลิกรัม (ขนาดโดสปกติที่ผู้ป่วยโรคไขมันอุดตันรับประทานในหนึ่งวัน) กลุ่มถัดมาได้รับอาหารเสริมวิตามินอี และกลุ่มสุดท้ายได้ยาหลอกซึ่งเป็นเม็ดแป้งธรรมดา ๆ ที่การทดลองครั้งนี้ได้รวมวิตามินอีเข้าไปด้วย เพราะมีการอ้างสรรพคุณว่าวิตามิอีช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้นั่นเอง

          กลุ่ม ผู้ทดลองได้รับประทานยาตามที่ตนเองได้รับทุกวัน เป็นเวลา 6 สัปดาห์ เมื่อครบกำหนดจึงได้ทดสอบความแข็งแกร่งและความอึดของเจ้านกเขาอีกครั้ง ปรากฏว่าคุณผู้ชายเฉพาะกลุ่มที่ได้รับสเตตินเท่านั้น ที่พบว่ามีการแข็งตัวของอวัยวะเพศในระดับที่น่าพึงพอใจมากที่สุด

   เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะ สเตตินช่วยเพิ่มโมเลกุลของไนตริกออกไซด์ ทำให้ผนังหลอดเลือดมีความยืดหยุ่น เลือดจึงไหลเวียนได้ดี โดยเฉพาะการไหลเวียนที่ดีขึ้นของเลือดในบริเวณเชิงกราน จึงมีแรงมากพอที่จะสูบฉีดให้อวัยวะเพศเกิดการแข็งตัวขึ้นมาได้ 

          อย่าง ไรก็ดี การศึกษาที่พบว่าตัวยาสเตตินช่วยรักษาอาการนกเขาไม่ขันจนได้ผลที่น่าพึงพอใจ นี้ยังเป็นแค่การศึกษาในคนกลุ่มเล็ก ๆ แม้แต่ข้างกล่องของยาลดไขมันที่มีส่วนผสมของสเตตินก็มีคำเตือนถึงผลข้าง เคียงไว้อย่างชัดเจน ว่า "อาจมีผลให้เกิดความผิดปกติในการแข็งตัวของอวัยวะเพศในบางราย" (ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่นนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัด) แต่ในระยะหลายปีที่ผ่านมา จำนวนงานวิจัยที่พบว่าสรรพคุณการลดไขมันอุดตันของมันช่วยรักษาอาการนกเขาไม่ ขันได้จริงจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และผู้ป่วยที่ใช้ยาสเตตินอย่างต่อเนื่องก็บอกว่าทำให้สุขภาพของตรงนั้นดี ขึ้นด้วย 

            หนุ่ม ๆ หลายคนที่ได้ฟังคงชักจะเริ่มโอนเอนหวั่นไหวไปกับสรรพคุณในฝันของมัน แต่ตรงส่วนนี้เราก็ไม่กล้าฟันธงนะครับ เอาเป็นว่าถ้านกเขาของคุณไม่ขัน ไม่สู้ และไม่รู้จะทำอย่างไร กินไวอะกร้าแล้วก็ไม่หาย ก็ขอให้ไปพบแพทย์ผุ้เชี่ยวชาญเร็วรี่โดยไว เพราะคุณอาจแจ็คพ็อตเจอกับโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดเข้าแล้วก็เป็นได้ พอถึงจุดนี้ก็จะได้รับยาลดไขมันมากินเองแหละครับ ^^"

Thank : k@pook
..................................................................................

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

อัญมณีประจำราศีต่างๆ




          อัญมณีประจำราศีมีการถกเถียงกันมากว่าอัญมณีอะไรกันแน่ที่ประจำราศีต่างๆ โหราศาสตร์ในโลกมีหลายแขนงหลายแบบและเป็นชาติต่างๆกัน ต่างก็มีเหตุผลว่าอัญมณีประจำราศีแตกต่างกัน ฉะนั้นในที่นี้พยายามค้นคว้ามาเสนอในหลายๆ แง่มุม 

อัณมณีประจำราศีแบบโหราศาสตร์ทั่วไป 

ราศีมังกร
(14 ม.ค. - 13 ก.พ.)โกเมน (พลอยสีแดงเข้ม) : ก่อให้เกิดความมั่นคง สุขภาพดี ซื่อสัตย์

ราศีกุมภ์
(14 ก.พ. - 13 มี.ค.)พลอยสีม่วง : สร้างความจริงใจ ซื่อตรงในความรัก

ราศีมีน
(14 มี.ค. - 13 เม.ย.)พลอยสีฟ้า : สร้างเกียรติยศ และความสวยงาม

ราศีเมษ
(14 เม.ย. - 13 พ.ค.)เพชร : สร้างโชคลาภ มีรักที่บริสุทธิ์

ราศีพฤษภ
(14 พ.ค. - 13 มิ.ย.)มรกต : ทำให้กล้าหาญ แข็งแรง

ราศีมิถุน
(14 มิ.ย. - 14 ก.ค.)ไข่มุก : ทำให้สุขภาพดี อายุยืน

ราศีกรกฎ
(15 ก.ค. - 15 ส.ค.)ทับทิม : ทำให้ประสบความสำเร็จ ป้องกันภัยจากภูติผีปีศาจ

ราศีสิงห์
(16 ส.ค. - 16 ก.ย.)พลอยสีเขียว : ให้ความซื่อตรง และภักดี

ราศีกันย์
(17 ก.ย. - 16 ต.ค.)ไพลิน : สร้างชัยชนะ สร้างความรัก และความเมตตา

ราศีตุลย์
(17 ต.ค. - 16 พ.ย.)โอปอล : สร้างความสุข และความสมหวัง

ราศีพิจิก
(17 พ.ย. - 16 ธ.ค.)บุษราคัม (สีเหลือง) : ทำให้มีมิตรที่ดี และความโชคดี

ราศีธนู
(17 ธ.ค. - 13 ม.ค.)เพทาย : ทำให้มีความเจริญ และความมั่นคง
............................................................................................

วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

คนสำส่อน "ระวัง!" โรคสายพันธุ์ใหม่มาเเว้ว


          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ได้ออกโรงเตือนว่า เชื้อโกโนเรียสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดการดื้อยา อาจร้ายแรงกว่าเชื้อไวรัสเอดส์ หลังจากมันพัฒนากลายเป็นเชื้อโรคร้ายแรงที่มีอันตรายสูง และมีศักยภาพที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตได้รวดเร็วยิ่งเอดส์ 

          รายงานระบุว่า เชื้อโกโนเรียดื้อยาดังกล่าว หรือ"เชื้อโกโนเรียสายพันธุ์"H041"ได้ถูกค้นพบเมื่อญี่ปุ่นเมื่อสองปีก่อน จากผู้หญิงบริการทางเพศในญี่ปุ่น วัย 31 ปี ก่อนพบว่าระบาดเพิ่มขึ้นในฮาวาย แคลิฟอร์เนีย และนอร์เวย์ และไวรัสดังกล่าวถูกพบว่าดื้อยาต่อยารักษาโรคโกโนเรียปัจจุบัน

         และถูกขึ้นบัญชีเป็นเชื้อโรคร้ายแรง เนื่องจากสามารถทำให้ผู้ติดเชื้อเกิดอาการช็อคเฉียบพลัน และเสียชีวิตได้ภายในไม่กี่วันเท่านั้น และแม้ว่าถึงขณะนี้ จะยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อโกโนเรียสายพันธุ์ใหม่นี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนว่า ผู้คนจะต้องหลีกเลี่ยงการติดเชื้อกับเชื้อโกโนเรียสายพันธุ์นี้เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้คนที่มีความสัมพันธ์ใหม่ ๆ กับผู้อื่น ควรจะมีเพศสมสัมพันธ์ที่ป้องกันและปลอดภัย 

          นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางด้านผู้อำนวยการกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรด้านการแพทย์แห่งชาติ ยังได้เรียกร้องให้รัฐสภาสหรัฐ อัดฉีดงบประมาณ 54 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้สำหรับการวิจัยพัฒนายารักษาเชื้อโกโนเรียสายพันธุ์ดื้อยาใหม่นี้ด้วย รวมทั้งการรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงพิษภัยของมัน 

          ทั้งนี้ เชื้อโกโนเรีย มักเป็นในหมู่ผู้คนที่มีอายุ 15-24 ปี ปัจจุบันสามารถรักษาได้ด้วยยา รวมทั้งยาใหม่ที่ถูกพัฒนาเพื่อต่อต้านเชื้อโกโนเรียที่มีการดื้อยา อย่างไรก็ตาม สำหรับอเมริกามีการพบว่า ผู้คนได้ติดเชื้อโกโนเรียเพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่น ในรัฐยูท่าห์ เพิ่มขึ้น 74 เปอร์เซนต์ เมื่อปี 2012,รัฐมินเนโซต้า เพิ่มขึ้น 35 เปอร์เซนต์
Thank : matichon
............................................................................................